จาง เจียหมิง ประธาน Great Wall Motors ภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทย แจ้งว่า บริษัทมีความมั่นใจในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า และยานยนต์พลังงานทางเลือกในประเทศไทย รวมถึงเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางยานยนต์พลังงานทางเลือก (New Energy Vehicle) ในภูมิภาคอาเซียน
ด้วยเล็งเห็นศักยภาพของการวิจัยและพัฒนา ทรัพยากร และบุคลากรที่มีคุณภาพ ดังนั้น Great Wall Motors ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) ได้วางกลยุทธ์การบุกตลาดยานยนต์ไทยด้วยการสร้างความแตกต่าง
หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญของ Great Wall Motors คือการนำเสนอเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก (New Energy Technology) พร้อมนำผู้บริโภคและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่ความยั่งยืน ควบคู่กับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle) ที่ผู้บริโภคไทยมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (Battery Electric Vehicle) และยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle)
ทั้งนี้แม้อยู่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ Great Wall Motors ยังเดินหน้าแผนการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก สะท้อนถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคและนักลงทุนมีความมั่นใจอย่างมาก
“ความพร้อมในการผลิตและการให้บริการของค่ายรถยนต์มีส่วนสำคัญในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่อีกปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือ นโยบายจากภาครัฐที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอุปทานผ่านสิทธิประโยชน์จากแผนส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าและการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีสรรพสามิต ซึ่งจะมีผลแปรผันโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ต่อเนื่องไปจนถึงระดับราคาของรถยนต์ ที่จะเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของยานยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น ตลอดจนการสร้างอุปสงค์ของผู้บริโภคผ่านโครงการนำร่องของภาครัฐ เช่น การสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมีการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นภายในอาคารสำนักงาน บ้าน คอนโดมิเนียม รวมถึงห้างสรรพสินค้าและสถานที่ชุมชนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ การให้ความรู้และการสื่อสารกับภาคประชาชนให้เล็งเห็นถึงผลดีของ EV ในด้านเทคโนโลยี การใช้งาน ต้นทุนการดูแลรักษาโดยรวมที่ต่ำ และผลดีที่มีต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว”
“Great Wall Motors วางแผนระยาวในการพัฒนาคุณภาพ การวิจัยและพัฒนา ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีของยานยนต์อย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าวางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงภายในปี 2025 เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกอย่างแท้จริง สำหรับประเทศไทย เรายังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง ตามโครงสร้างพื้นฐาน และความพร้อมในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา