ชีวิตของคนๆ หนึ่ง ต้องใช้เวลาไปกับการศึกษา นับตั้งแต่เข้าเรียนในชั้นอนุบาล จนถึงช่วงเวลาที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย รวมๆ แล้วใช้เวลาไปมากถึง 18 ปี แน่นอนว่าการรับปริญญา จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ เป็นเหมือนสิ่งแสดงความสำเร็จ ที่คนๆ หนึ่ง ได้บรรลุเป้าหมายการใช้ชีวิตไปแล้วหนึ่งขั้น
ภาพผู้คนรายล้อม เสียงเชียร์ ช่อดอกไม้ ของขวัญ และรอยยิ้มทั้งของบัณฑิต คนในครอบครัว หรือเพื่อนๆ ที่เข้ามาแสดงความยินดี เป็นภาพจำที่เราเห็นกันในช่วงรับปริญญา เหล่าบัณฑิตจบใหม่มักเช่าชุดครุย เพื่อถ่ายรูปกับครอบครัว และกลุ่มเพื่อนสมัยเรียน เก็บภาพบรรยากาศในสถานที่ๆ คุ้นเคย เพื่อเก็บภาพเหล่านี้ไว้เป็นความทรงจำในอนาคต
แต่ความจริงแล้ว ความทรงจำ ที่บัณฑิตจบใหม่ต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก มีราคาเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่ต้องเลือกจ่าย
เปิดค่าใช้จ่ายบัณฑิตจบใหม่ จะรับปริญญาต้องจ่ายอะไรบ้าง
ค่าใช้จ่ายส่วนแรก เป็นค่าใช้จ่ายส่วนที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการขึ้นทะเบียนบัณฑิต เป็นค่าใช้จ่ายที่มหาวิทยาลัยเรียกเก็บกับบัณฑิตโดยตรง โดยอาจเรียกเก็บแยกต่างหากในช่วงปีการศึกษาสุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัย หรือบางมหาวิทยาลัยก็เก็บค่าใช้จ่ายส่วนนี้รวมกับค่าเทอมที่เคยเรียกเก็บไปแล้วก่อนหน้านั้น ไม่จำเป็นต้องจ่ายแยกแต่อย่างใด
ค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียนบัณฑิต เป็นค่าใช้จ่ายที่มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยกำหนด เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เก็บค่าขึ้นทะเบียนบัณฑิต 1,000 บาท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมอยู่ในค่าเทอมแล้ว ไม่มีการเรียกเก็บเพิ่มเติม, มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2,000 บาท มหาวิทยาลัยรังสิต 1,000 บาท และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ 3,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้จะเรียกเก็บจากบัณฑิตทุกๆ คน แม้จะเลือกไม่เข้าพิธีรับปริญญาก็ตาม
ค่าชุดครุย ค่าชุดครุยส่วนใหญ่ราคาจะมีความแตกต่างกันไป แล้วแต่รูปแบบครุยของมหาวิทยาลัย รวมถึงรูปแบบการเช่า แต่ส่วนใหญ่จะมีราคาแบ่งเป็น เช่า ระยะเวลา 1 เดือน 500 บาท เช่าตัด ระยะเวลา 1 เดือน 1,000 บาท และตัดเป็นของตัวเอง 2,500 บาท เป็นต้น ซึ่งการเช่ายังไม่ได้รวมค่ามัดจำที่ต้องจ่ายเพิ่ม และจะได้คืนเมื่อคืนชุดครุยให้กับร้าน ในสภาพสมบูรณ์
ในกรณีของบางมหาวิทยาลัยกำหนดให้นักศึกษาชายต้องตัดสูท หรือชุดเครื่องแบบเฉพาะ เพื่อใช้ในการรับปริญญา ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง
ค่ารูปถ่ายรับปริญญา พร้อมกรอบรูป เป็นค่าใช้จ่ายอีกส่วนที่ต้องเสียให้กับมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้จัดหาร้านที่จะถ่ายรูปในพิธีรับปริญญา พร้อมนำรูปใส่กรอบให้เพื่อความสวยงาม
กรณีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาพหมู่ และภาพรับปริญญา จะมีราคาอยู่ที่ 1,500-4,200 บาท โดยสามารถเลือกได้ตามแพคเกจที่ต้องการ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตาม ขนาดภาพ ชนิดของภาพ และรูปแบบของกรอบที่ต้องการ
ส่วนกรณีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะแบ่งออกเป็นภาพภาพถ่ายหมู่ มีราคาอยู่ที่ 480-1,650 บาท ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาเฉพาะรูป หรือรูปพร้อมกรอบ ส่วนภาพถ่ายเดี่ยว จะมีให้เลือกในราคา 1,100-3,600 บาท โดยในชุดจะมาพร้อมกับภาพขนาด 4×6 นิ้วจำนวนอีก 4 ภาพ
ค่าใช้จ่ายส่วนเสริม จ่ายมากหรือน้อย อยู่ที่ความพอใจของแต่ละคน
ค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่ง จะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเสริม บัณฑิตสามารถเลือกที่จะจ่ายหรือไม่จ่าย สามารถควบคุมการใช้จ่ายให้อยู่ในงบประมาณที่บัณฑิตแต่ละคนมีได้ ได้แก่ค่าจ้างช่างถ่ายภาพ มีให้เลือกหลายราคา ตามประสบการณ์ของช่างภาพ หากเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงก็อาจมีราคาแพงกว่า แบ่งเป็นครึ่งวัน 2,000-3,500 บาท และเต็มวัน 3,500-4,500 บาท
หากบัณฑิตบางคนต้องการจ้างช่างถ่ายภาพมาถ่ายหลายๆ รอบ เช่น ถ่ายในวันซ้อม และวันจริง ถ่ายกับกลุ่มเพื่อนหลายๆ รอบ ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ค่าจ้างช่างแต่งหน้า-ทำผม หากบัณฑิตแต่งหน้าด้วยตัวเองไม่เป็น และจำเป็นต้องจ้างช่างแต่งหน้า ก็มีให้เลือกตั้งแต่ 1,500 บาท ไปจนถึง 3,000 บาท ต่อครั้ง
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าที่พัก และค่าเดินทาง สำหรับบัณฑิตที่เป็นคนต่างจังหวัด หากบัณฑิตไม่ได้มีที่พักอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย อาจต้องเช่าโรงแรม เช่าห้องพักรายวัน ใกล้กับมหาวิทยาลัย เพื่อทดแทนกับการออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อเดินทางมายังมหาวิทยาลัยที่อยู่ไกลบ้าน
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรับปริญญา เป็นภาระอย่างหนึ่งที่บัณฑิตจบใหม่จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง บัณฑิตบางคนเรียนจบและรอรับปริญญาในช่วงที่ยังไม่ได้งานทำ ส่วนบัณฑิตบางคนรับปริญญาในช่วงที่ทำงานแล้ว ซึ่งแม้จะมีเงินเดือนเป็นของตัวเอง แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็นับว่าเป็นจำนวนไม่น้อย
แม้ว่าค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างจะสามารถเลือกตัดออก หรือเลือกบริการที่มีราคาถูกลงได้ตามกำลังที่บัณฑิตแต่ละคนมี แต่อย่าลืมว่า การสำเร็จการศึกษา เป็นเหมือนความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต บางคนอาจไม่ได้มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับการศึกษาที่สูงกว่านี้ ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น แม้จะมากเมื่อเทียบเป็นจำนวนเงิน แต่ก็อาจคุ้มค่า กับความภาคภูมิใจของบัณฑิตจบใหม่แต่ละคน
ที่มา – มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยรังสิต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา