Grab รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2022 ว่า มีรายรับสุทธิ (GMV) ที่ 5,055 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30% มีรายได้รวม 321 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 79% ขาดทุน 572 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่าไตรมาสก่อน 29% ย้ำไตรมาส 1 ปี 2023 ธุรกิจส่งอาหาร ตัวเลข EBITDA จะ Break Even
Grab รายรับรวม และรายได้เติบโต
Grab รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปี 2022 มีรายรับสุทธิ (GMV) ที่ 5,055 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นจากธุรกิจเกี่ยวกับการจัดส่ง (Delivery) 2,476 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน, ธุรกิจเกี่ยวกับการเดินทาง (Mobility) 1,035 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 51%, ธุรกิจบริการทางการเงิน (Financial Services) 3,778 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31% และที่เกี่ยวกับองค์กร กับธุรกิจใหม่อีก 52 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 51%
ด้านรายได้ของ Grab ในไตรมาสดังกล่าวเติบโต 79% คิดเป็นมูลค่า 321 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวกับการจัดส่ง 134 ล้านดอลลาร์, ธุรกิจที่เกี่ยวกับการเดินทาง 161 ล้านดอลลาร์, ธุรกิจบริการทางการเงิน 13 ล้านดอลลาร์ และที่เกี่ยวกับองค์กร กับธุรกิจใหม่อีก 14 ล้านดอลลาร์ แต่ถึงจะเติบโตแค่ไหน บริษัทยังขาดทุนอยู่ที่ 572 ล้านดอลลาร์ แม้จะดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน 801 ล้านดอลลาร์
หนึ่งในเหตุผลที่ Grab ยังขาดทุนเพราะบริษัทยังต้องจ่ายค่า Incentive ให้กับพาร์ตเนอร์ผู้ให้บริการในระบบ รวมถึงทำส่วนลดให้กับผู้ใช้บริการทั่วไปด้วย โดยในไตรมาส 2 ปี 2022 Grab มีค่าใช้จ่ายดังกล่าวที่ 523.4 ล้านดอลลาร์ มากขึ้นกว่าปีก่อนที่จ่ายไป 414 ล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าดังกล่าวคิดเป็น 10.4% ของรายรับรวม ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนที่มีสัดส่วน 10.7%
ให้ความสำคัญกับการทำกำไรมากขึ้น
“ตัวเลขในไตรมาส 2 แสดงให้เห็นการเติบโตอย่างยั่งยืนของเรา โดยเฉพาะฝั่งบริการที่เกี่ยวกับการจัดส่งมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่ภาพรวมการกลับมารับประทานอาหารนอกบ้านเริ่มทำให้ความต้องการใช้บริการลดลง ซึ่งจากนี้เราจะเน้นเรื่องทำกำไรมากขึ้น ผ่านการทุ่มเต็มที่กับการพัฒนาบริการที่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงดีขึ้น และลดต้นทุนต่าง ๆ ได้” Anthony Tan ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Grab กล่าว
Grab ตั้งเป้ารายรับรวมในสิ้นปี 2022 เติบโต 21-25% มีรายได้รวมจากธุรกิจต่าง ๆ ที่ 1,250-1,300 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจ Food Delivery จะมี EBITDA หรือกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ภายในไตรมาส 1 ปี 2023 เร็วกว่าเป้าเดิมที่วางไว้ภายในครึ่งแรกของปี 2023 ส่วนธุรกิจเกี่ยวกับการจัดส่งจะมี EBITDA เป็นกำไรในไตรมาส 2 ปี 2023 จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้สิ้นปี 2023
ทั้งนี้ Grab มีการปรับลด Incentive ต่าง ๆ ทั้งฝั่งลูกค้า และพาร์ตเนอร์ผู้ให้บริการลงมาตลอด เช่น ไตรมาส 4 ปี 2021 สัดส่วน Incentive เมื่อเทียบกับ GMV จะอยู่ที่ 18.2% แต่ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 15.4% ถือเป็นการเร่งให้เกิดกำไรให้เร็วที่สุด เนื่องจากบริษัททำธุรกิจมาราวสิบปี และเป็นผู้นำในตลาดต่าง ๆ ของภูมิภาคอาเซียน แต่ยังไม่สามารถทำกำไรได้เสียที
อ้างอิง // Grab
**หมายเหตุ** Brand Inside เป็นเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ LINE MAN Wongnai
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา