Google ใช้ Machine Learning มาช่วยนักการตลาดอย่างไรบ้าง?

นักการตลาดออนไลน์ต้องรู้!

ชวนอ่านบทความของ Google ที่อธิบายถึงการนำเอา Machine Learning มาใช้ในการทำการตลาดและโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มของ Google

Google ใช้ Machine Learning มาช่วยนักการตลาดอย่างไรบ้าง?

1. ใช้ Machine Learning ทำให้ Ads ยืดหยุ่นมากขึ้น

หลังจากนี้การทำ Ads บนแพลตฟอร์ม Google จะเปลี่ยนไป

Google เตรียมนำเอา Machine Learning มาใช้ในการทำโฆษณา โดยจะใช้ชื่อว่า Responsive Search Ads ชื่อไทยคือ โฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์

Google มองว่า การโฆษณาที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดบนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องโฆษณาในรูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพที่สุด

วิธีการใช้งาน Responsive Search Ads ในเบื้องต้น

  • Machine Learning จะบอกให้นักการตลาดใส่หัวข้อที่ต้องการจำนวน 15 หัวข้อ พร้อมกับคำอธิบายในแต่ละหัวข้อประมาณ 4 บรรทัด
  • หลังจากนั้น Machine Learning จะนำเอาคำโฆษณาไปวิเคราะห์ ประมวลผล และส่ง Ads ไปในอุปกรณ์ต่างๆ ให้เหมาะสมตามรูปแบบของอุปกรณ์ เช่น Ads ในคอมพิวเตอร์อาจจะมีความยาวมากกว่าโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

ข้อมูลภายในของ Google ระบุว่า การใช้ Responsive Search Ads ช่วยเพิ่มยอดการคลิกได้มากกว่า 15%

อย่างไรก็ตาม Google บอกว่า Responsive Search Ads จะพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนนี้

2. ใช้ Machine Learning ยิง Ads บน YouTube ถึงคนที่สนใจจริงๆ

Google ให้ข้อมูลว่า ทุกวันจะมีคนดูวิดีโอบน YouTube ถึงวันละ 1 พันล้านชั่วโมง และแน่นอนว่า ปริมาณการชมวิดีโอที่สูงระดับนี้ นำไปสู่การซื้อสินค้าในชีวิตจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม ยกตัวอย่างเช่น Google ระบุว่า คนจำนวน 50% ที่กำลังจะซื้อรถยนต์ จะเข้ามาชมรายละเอียดของรถยนต์คันนั้นๆ บน YouTube ก่อนการซื้อสินค้าจริง

ก่อนหน้านี้ YouTube จะยิง Ads ไปหาผู้ชมวิดีโออยู่แล้ว แต่ Google มองว่า Ads ที่ยิงไปหาผู้ชมยังไม่แม่นยำเพียงพอ หลังจากนี้ Google จึงจะส่ง Machine Learning มาแก้ปัญหานี้ด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Smart Bidding โดย Machine Learning จะทำการวิเคราะห์พฤติกรรมจากฐานข้อมูลของผู้ชมวิดีโอ และเสนอเป้าหมายใหม่ๆ

  • พูดง่ายๆ ก็คือ Machine Learning จะทำให้การโฆษณาบน YouTube แม่นยำและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคคนนั้นๆ มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม Smart Bidding ของ Google ตัวนี้จะให้บริการอย่างเป็นทางการภายในปีนี้

3. ใช้ Machine Learning เพิ่มยอดการเข้าชมร้านค้าผ่าน Google Maps

หลายคนน่าจะใช้ฟีเจอร์ near me ของ Google อยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่ต้องค้นหาร้านค้า ร้านอาหาร หรือโรงแรมที่ตัวเองสนใจในละแวกใกล้เคียง

Google ให้ข้อมูลว่า การใช้งาน near me เติบโตถึง 3 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมากกว่านั้น สายช้อปกว่า 80% ใช้ฟีเจอร์ตัวนี้เพื่อเดินทางไปร้านค้านั้นจริงๆ

  • รอบนี้ Google จึงตัดสินใจส่ง Local campaigns เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ร้านค้าในท้องถิ่นผ่านการใช้ Machine Learning
  • Machine Learning จะดึงผลการค้นหาของร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ ขึ้นมาให้ผู้บริโภคที่ใช้การค้นหา near me บน Google Maps

ฟีเจอร์ตัวนี้ของ Google มีให้บริการอยู่แล้ว แต่ Google พยายามสื่อสารว่า ต่อจากนี้ไปแบรนด์และนักการตลาดจะสามารถซื้อ Ads ผ่าน Local campaigns ที่ใช้ Machine Learning โดยบริการจะเปิดอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้

4. ใช้ Machine Learning ช่วยเพิ่มยอดให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ก่อนหน้านี้ Google เคยส่ง Smart Shopping มาใช้ในการโฆษณาของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

แต่รอบนี้ Google ใช้ Machine Learning มาช่วยทำให้ Ads บนแพลตฟอร์มต่างๆ ไปแสดงให้กับผู้บริโภคที่ Machine Learning วิเคราะห์แล้วว่าตรงกับความต้องการมากที่สุด โดย Ads เหล่านั้นจะไปแสดงบนเว็บไซต์ของ Google โดยตรง รวมถึงแสดงผ่านการการค้นหารูปภาพ แม้กระทั่ง YouTube และ Gmail

ในบล็อกของ Google ระบุว่า แบรนด์ GittiGidiyor บริษัทในเครือ eBay ได้เข้ามาใช้ Smart Shopping และพบว่า ได้ผลมากกว่าการซื้อ Ads แบบเดิมถึง 28% ที่มากกว่านั้นยังช่วยเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ได้ถึง 4%
ข้อมูล – Google

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา