นักจิตวิทยาเผย แบบทดสอบบุคคลิกภาพไม่ได้มีแค่ข้อดี ระวังอย่ายึดติดจนไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ

การทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ เป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนคงคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ที่คุณครูแนะแนวมักให้นักเรียนทำแบบ เพื่อค้นพบตัวตน รู้ความถนัด และความสามารถของตัวเอง เพื่อเลือกเรียนในสิ่งที่ตรงกับความสามารถของตัวเองให้มากที่สุด

การทดสอบบุคลิกภาพ ภาพจาก Shutterstock

แต่เชื่อหรือไม่ว่าความจริงแล้วการทำแบบทดสอบบุคลิกภาพก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีเท่านั้น เพราะความจริงแล้วแบบทดสอบบุคลิกภาพมีข้อเสียที่อาจฉุดรั้งการพัฒนาตัวเองของคุณได้เช่นกัน Benjamin Hardy นักจิตวิทยาและนักเขียนหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา เล่าว่า แบบทดสอบบุคลิกภาพทำให้เกิดความเข้าใจผิด ว่าบุคคลิกภาพเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดชีวิต

แต่ความจริงแล้วแบบทดสอบบุคลิกภาพเป็นเพียงการประเมินจากสิ่งที่เคยทำในอดีต เพื่อคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น ดังนั้นแบบทดสอบบุคลิกภาพจึงมีความน่ากลัวสำหรับคนที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองไปสู่สิ่งใหม่ๆ นอกเหนือจากสิ่งที่แบบทดสอบบอก

คำถามที่เกิดขึ้นคือ ถ้าแบบทดสอบบุคลิกภาพไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียว แล้วทำไมคนส่วนใหญ่จึงชอบที่จะทำแบบทดสอบเหล่านี้?

ทำไมคนถึงชอบทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ

คำตอบของคำถามนี้อธิบายแบบง่ายๆ คือ ที่ผ่านมาธรรมชาติของมนุษย์ชอบที่จะคิดค้นทฤษฎีต่างๆ เพื่ออธิบายความเป็นตัวตนของตัวเอง โดยแบ่งแยกคนออกเป็นประเภท แต่ประเด็นที่สำคัญคือ คนไม่ใช่สิ่งของที่จะแบ่งประเภทได้ง่ายๆ เหมือนผัก เหมือนปลา และการแบ่งคนออกเป็นประเภทต่างๆ ย่อมทำให้เกิดภาพจำและการเหมารวม ว่าคนประเภทใดประเภทหนึ่ง จะต้องมีลักษณะแบบนี้ตลอดเวลา

นอกจากนี้การทำแบบทดสอบบุคลิกภาพยังช่วยทำให้เกิดการสร้างอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนขึ้นมา ทำให้คนแต่ละคนรู้ว่าตัวเองมีอัตลักษณ์อย่างไร ซึ่งอัตลักษณ์นี้เองจะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของแต่ละบุคคล เป็นเหมือนการติดป้ายบอกว่าแต่ละคนมีลักษณะอย่างไร

แต่ต้องไม่ลืมว่าการติดป้ายบอกว่าแต่ละคนเป็นคนยังไงก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เพราะตามธรรมชาติของคนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทำแบบทดสอบบุคลิกภาพเป็นเพียงการประเมินตัวตนในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราอาจเปลี่ยนไปจนผลทดสอบบุคลิกภาพไม่เหมือนเดิมก็ได้

เพราะถ้าเราเป็นคนที่มีบุคลิกภาพ ลักษณะนิสัยเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ก็อาจแสดงให้เห็นว่าเรายังคงมีความเป็นเด็กในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะความคิดความอ่านที่ไม่ได้โตไปตามอายุ

ภาพจาก pixabay.com

ต้องรู้จักความเปลี่ยนแปลง อย่ายึดติด

การรู้จักสังเกตความแตกต่างในบุคลิกภาพของตัวเองเป็นสิ่งที่ควรทำ ทั้งความเป็นตัวคุณในอดีตเทียบกับปัจจุบัน รวมถึงคิดถึงอนาคตของตัวเองที่จะเปลี่ยนไป โดยอาจคิดว่าตัวเองในอนาคตเป็นคนๆ อื่นก็ได้ เพื่อทำความเข้าใจความเป็นตัวเองในปัจจุบัน

นอกจากการสังเกตความเป็นตัวตนของตัวเองทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่อยากจะเป็นเพื่อยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตแล้ว อีกปัจจัยสำคัญจากการทำแบบทดสอบบุคลิกภาพคือ การไม่ยึดติดกับอดีต และปัจจุบันของตัวเอง ทุกๆ คนย่อมมีพัฒนาการที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิต เช่น ตอนเรียนมัธยมเราอาจเป็นคนที่ไม่เก่งวิชาคำนวน หรือวิชาที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำไม่ได้ตลอดไป เพราะหากได้รับการฝึกฝน วันนึงในอนาคตเราก็อาจทำได้เช่นกัน

ภาพจาก Unsplash โดย Lesly Juarez

เรื่องร้ายกลายเป็นดี แค่ปรับมุมมอง

หลายๆ คนอาจมีประสบการณ์อะไรบางอย่างที่ไม่ดีในอดีต ความจริงแล้วเราสามารถเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาปรับใช้กับปัจจุบันได้ โดยอาจเริ่มจากการเปลี่ยนมุมมอง แม้ว่าจะเป็นประสบการณ์เดิมที่ผ่านมาแล้ว แต่หากเราเลือกมองแต่มุมดีๆ ของมัน เอาประสบการณ์ที่ไม่ดีมาปรับใช้กับปัจจุบัน และกำหนดเป้าหมายในอนาคต จิตนาการถึงอนาคตของตัวเองว่าเราต้องการจะกลายเป็นคนแบบไหน อย่ายึดติดกับบุคคลิกภาพในปัจจุบัน เพราะหากยึดติดจะกลายเป็นว่าเราจะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้า หรือสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตัวเองได้เลย

ที่มา – Fastcompany

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา