ภาพจำในอดีตของ GOLDCITY คือรองเท้านักเรียน เพราะทำตลาดสินค้านี้มายาวนานถึง 70 ปีแล้ว แต่ปัจจุบัน GOLDCITY มีรองเท้าให้เลือกซื้อมากกว่านั้น แถมมาพร้อมราคาที่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในทุกก้าวของคนไทย
Attitude ใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม
ปกติแล้วเวลาไปซื้อรองเท้านักเรียน ชื่อที่แว่บเข้ามาในหัวก็คงมีไม่กี่ยี่ห้อ หนึ่งในนั้นต้องมี GOLDCITY อยู่แน่นอน เพราะทำตลาดมานาน แต่ด้วยปัญหาเด็กเกิดใหม่น้อยลง ทำให้ตลาดรองเท้านักเรียนมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท เติบโตลำบาก และ GOLDCITY ก็ต้องพยายามต่อสู้ภายในตลาดที่ตัวเองเชี่ยวชาญมาโดยตลอด
หนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจของ GOLDCITY ก็คือการปรับ Attitude หรือมุมมองในการทำธุรกิจใหม่ ผ่านการอาศัยความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการผลิตรองเท้า เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบแฟชั่น, รองเท้าแตะ, รองเท้ากีฬา รวมถึงรองเท้าใส่ทำงาน
ส่วนตัวรองเท้านักเรียนที่มีสัดส่วนการขายมากที่สุด GOLDCITY ก็ยังไม่ทิ้งตลาดนี้ ได้พัฒนาสินค้านี้ผ่านการใส่ความเป็นแฟชั่นเข้าไปด้วย เพราะการเลือกซื้อรองเท้านักเรียนในปัจจุบัน ผู้บริโภคเริ่มมองมากกว่าเป็นรองเท้าที่ใส่ไปโรงเรียน แต่ต้องแสดงถึงตัวตนของผู้ใส่ จุดนี้เองทำให้ GOLDCITY เป็น Top 3 ของผู้นำในตลาดรองเท้านักเรียนของประเทศไทย
เปิดประวัติ GOLDCITY แบรนด์รองเท้าเพื่อคนไทย
สำหรับประวัติ GOLDCITY นั้นเริ่มต้นในปี 2493 ผ่านการทำโรงงานรองเท้าผ้าใบที่ผลิตด้วยมือ มีคนงานเพียง 8 คน และควบคุมการผลิตโดยผู้ก่อตั้ง “สุพัฒน์-เรือนงาม จินาพันธ์” จากนั้นก็ขยายโรงงานเพื่อผลิตรองเท้าแบบต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังรับผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์รองเท้าทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
การตลาดสินค้าของ GOLDCITY เริ่มจากรองเท้ายางกันน้ำแบบบูท, รองเท้าผ้าใบ และรองเท้าแตะ จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงรองเท้านักเรียน และรองเท้าแฟชั้น
ล่าสุดใช้แนวคิดการสื่อสารแบรนด์ผ่านแคมเปญ “ก้าวทุกก้าวเป็นไปได้” แสดงให้เห็นว่า GOLDCITY มีรองเท้าหลากหลายรูปแบบที่พร้อมตอบโจทย์และสนับสนุนทุกการใช้ชีวิตของคนไทย
นอกจากนี้ในแคมเปญ “ก้าวทุกก้าวเป็นไปได้” ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนเดินหน้าต่อไป แม้ชีวิตจะยากลำบากแค่ไหน เนื่องจากยังมีคนที่ลำบากกว่าอยู่อีกเต็มไปหมด และทาง GOLDCITY เองก็ต้องการสนับสนุนก้าวเหล่านั้นเช่นเดียวกัน
ตลาดรองเท้านักเรียนไม่มีคำว่าง่ายอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้ตลาดรองเท้านักเรียนไทยอาจดูไม่ยากมากนัก เพราะในแต่ละปีทุกครอบครัวก็ต้องซื้อรองเท้าให้บุตรหลาน และทุกแบรนด์ก็แค่สร้างแคมเปญการตลาด หรือทำโปรโมชั่นเพื่อจูงใจให้ผู้ซื้อเข้ามา ทั้งช่วง 10-20 ก่อน จำนวนเด็กเกิดใหม่ยังไม่ลดลงขนาดนี้ ทำให้ตลาดรองเท้านักเรียนก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ทั้งหมดนี้มันไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะเด็กเกิดใหม่ก็น้อย ไหนจะต้นทุนการผลิตที่แต่ละแบรนด์ต้องแบกรับไว้ ทำให้ความจำเป็นในการพัฒนารองเท้านักเรียนให้เป็นมากกว่ารองเท้านักเรียนเริ่มมีมากขึ้น ซึ่ง GOLDCITY ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ใส่ความเป็นแฟชั่นเข้าไปในรองเท้านักเรียนเพื่อใช้สวมใส่ได้ในทุกโอกาส
ในทางกลับกัน GOLDCITY ก็ปรับตัวไปรุกตลาดรองเท้าแฟชั่นมากขึ้น อาศัยประสบการณ์ที่เคยรับผลิตรองเท้าผ้าใบให้กับแบรนด์ดัง ๆ มากมาย แสดงให้เห็นว่าตลาดรองเท้านักเรียนในประเทศไทยไม่ง่ายอีกต่อไปแล้ว และผู้ผลิตรองเท้านักเรียนในไทยก็ต้องปรับตัว และหาช่องทางรายได้ใหม่ ๆ จะให้พึ่งพาแต่รองเท้านักเรียนคงไม่ได้
สรุป
GOLDCITY เป็นแบรนด์รองเท้าที่เก่าแก่ของไทย ซึ่งกว่าจะก้าวมาถึง 70 ปีก็คงไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค เพราะต้องฝ่าฟันวิกฤติมากมาย ดังนั้นต้องคอยจับตาการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ของ GOLDCITY ว่าจะเดินกลยุทธ์อะไรอีกเพื่อเพิ่มความยั่งยืนให้กับธุรกิจต่อไป
สามารถดูผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ Goldcityshop.com
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา