เมื่อเศรษฐกิจไทยและโลกดูไม่ค่อยดี มีความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน ฯลฯ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกหันมาเปลี่ยนเงินลงทุนมาเป็น Safe Haven อย่างทองคำจนราคาทะลุบาทละ 20,000 บาทไปแล้ว
ว่าแต่หลังจากนี้ราคาทองจะเป็นอย่างไร?
ก.ค. 62 ทองคำลุ้นแตะบาทละ 21,000 บาท ต้องติดตามปัจจัยรอบโลก
ศูนย์วิจัยทองคำ ระบุว่า ผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มองว่าราคาทองคำแท่งในประเทศช่วงเดือนก.ค.จะเคลื่อนไหวในกรอบบาทละ 20,000-21,000 บาท ในขณะที่ราคาทองคำโลก (Gold Spot) จะอยู่ที่ 1,363-1,458 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนค่าเงินบาทไทยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.24–31.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้เดือนก.ค. ราคาทองอาจะปรับลดลงเล็กน้อย เพราะมีการเทขายเพื่อทำกำไร หลังจากเดือน มิ.ย. 2562 ราคาทองคำเพิ่มขึ้นสูงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. 2562 แต่ราคาทองคำในเดือนนี้มีโอกาสพุ่งขึ้นไปแตะกรอบบนที่ 1,439 – 1,461 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากมีสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลกยังมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ด้านการเคลื่อนไหวราคาทองคำในไตรมาสที่ 3 (ก.ค.-ก.ย.2562) ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำอยู่ที่ 58.18 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่อยู่ระดับ 47.79 จุด สาเหตุหลักมาจากนักลงทุนมองว่า ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจะเพิ่มขึ้น เงินทุนไหลออกจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยกระทบราคาทองที่ต้องจับตามองในครึ่งปีหลัง 2562
- นโยบายการเงินและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) นักลงทุนทั่วโลกมองว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปีนี้ ทำให้นักลงทุนจับตาผลการประชุมในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งหาก FED ปรับลดดอกเบี้ยอาจทำให้เงินไหลออกมายังประเทศเกิดใหม่ รวมถึงการเข้าซื้อทองคำ
- สงครามการค้า โดยเฉพาะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ที่ทางสหรัฐประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปมูลค่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และต้องจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนสหรัฐที่แม้มีทีท่าดีขึ้น แต่ยังไม่มีความชัดเจน
- สถานการณ์การเมืองระหว่างสหรัฐ และอิหร่าน ที่มีความตึงเครียดมากขึ้นหลังจากเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในอ่าวโอมาน
- Brexit (การที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป) ล่าสุดอังกฤษมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่คือ บอริส จอห์นสัน มาจากพรรคอนุรักษ์นิยม หลายฝ่ายมองว่าอังกฤษจะเข้าสู่ Hard Brexit หรือการออกจาก EU โดยไม่มีการเจรจาหรือเงื่อนไข และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอังกฤษในระยะสั้น
สรุป
เมื่อโลกมีเรื่องหวั่นไหว ก็ทำให้นักลงทุนหันกลับมาซื้อทองเสมอ ยิ่งตอนนี้สหรัฐฯ อาจจะลดดอกเบี้ยนโยบายเลยทำให้นักลงทุน Search for Yield (แสวงหาผลตอบแทนที่มากขึ้น) เช่น ซื้อหุ้น กองทุน หรือลงทุนอะไรที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ขณะเดียวกันหากปัจจัยเสี่ยงทั่วโลกลดลง นักลงทุนที่นำเงินมาเก็บทองก็อาจจะนำเงินออกมาลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนเช่นกัน
ที่มา ศูนย์วิจัยทองคำ, สมาคมค้าทองคำ, VOA
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา