เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Get ในประเทศไทย ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น Gojek ตามบริษัทแม่ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยในปัจจุบัน Gojek เปิดให้บริการแล้วใน 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และไทย
โดยการเปลี่ยนชื่อจาก Get เป็น Gojek เป็นกลยุทธ์ในระยะยาวของบริษัทที่ต้องการสร้างผลกระทบในเชิงบวกพร้อมกับการสร้างนวัตกรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ในประเทศเวียดนาม GoViet ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Gojek ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
วันนี้ Gojek ได้เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ตั้งเวลาเวลา 6.00 น. ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 4 บริการหลัก คือ บริการส่งอาหาร (GoFood) บริการเรียกรถจักรยานยนต์ (GoRide) บริการรับส่งพัสดุ (GoSent) และบริการ E-Wallet (GoPay)
ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Gojek ประเทศไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนรีแบรนด์จาก Get เป็น Gojek จะช่วยให้ทุกๆ ตลาด ใช้แอปพลิเคชันเดียวกัน ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด สร้างการจดจำในแบรนด์เดียวกัน โดยคาดว่าการรีแบรนด์จะใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิน 6 เดือน เพราะ Gojek เป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จัก โดยเฉพาะจากข่าวต่างประเทศอยู่แล้ว ดังนั้นคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการสร้างการรับรู้ของ Gojek
และแม้ว่า Get จะเปลี่ยนเป็น Gojek แต่ภิญญา เล่าว่า การบริหารยังคงมีความเป็น Local อยู่เช่นเดิม เช่นเดียวกันกับตัวแอปพลิเคชัน ที่แม้จะมีความเป็น Global แต่ไส้ใน มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับประเทศไทยเหมือนเดิม (Localization) ส่วนเป้าหมายในปีนี้อยากเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด จากที่แต่ก่อนมองเป้าหมายไว้ที่กรุงเทพมหานครเป็นหลัก แต่ตอนนี้อยากสร้าง Impact 10 เท่าของปัจจุบัน
ในขณะนี้มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Get เดิม ย้ายมาใช้ Gojek แล้วหลักแสนราย ในช่วงการเปิดให้ลงทะเบียนเป็นระยะเวลา 15 วัน ส่วนฐานลูกค้าในแต่ละประเทศนั้น Gojek มองว่า สัดส่วนลูกค้าจะแบ่งเป็น ประเทศอินโดนีเซีย 50% และประเทศอื่นๆ ที่เหลืออีก 50%
โดย Gojek มีโปรโมชันในช่วงเปิดให้บริการ สำหรับบริการ GoFood มีคูปองส่วนลดสูงสุด 2,500 บาทให้กับผู้ใช้ใหม่ ดีลส่วนลดค่าอาหารสูงสุด 50% ส่วนบริการ GoRide ผู้ใช้สามารถเก็บคูปองส่วนลดมูลค่า 12 บาท สูงสุด 5 ใบ เพื่อทดลองเรียกใช้บริการรถจักรยานยนต์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา