GMM Music ปิดดีลดึง Warner Music Asia ร่วมลงทุน 370 ล้าน

หลังจากประกาศปิดดีลยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนอย่าง TENCENT ไปได้ไม่นาน ล่าสุด GMM Music ก็มาแรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ปิดดีล Warner Music Asia ที่ทุ่มเม็ดเงินกว่า 370 ล้านบาท พร้อมจ่ายเงินประกันขั้นต่ำ (Minimum Guarantee) 315 ล้านบาท ผลักดันบริษัทและอุตสาหกรรมเพลงไทยไปสู่ระดับโลก

ดีล GMM Music x WMA มีรายละเอียดยังไงบ้าง?

  • ทุ่มเม็ดเงินลงทุน 370 ล้านบาท พร้อมจ่ายเงินประกันขั้นต่ำ (Minimum Guarantee) 315 ล้านบาทต่อยอดมูลค่าของ Music IP Assets ให้ GMM Music ต่อเนื่องตลอด 3 ปีข้างหน้า
  • ร่วมลงทุน (Joint-Venture Operation) ตั้งค่ายเพลงใหม่ เพิ่มกำลังการผลิต-ยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมเพลงไทย เพิ่มมูลค่าตลาดด้วยใช้ระบบการจัดจำหน่ายชั้นสูงจากกลุ่ม Warner (ADA)
  • ร่วมผลักดันแผน Spin-off เพื่อเดินหน้าเสนอขาย IPO ของ GMM Music

โดย GMM Music บอกว่า การปิดดีลของ ‘วอร์นเนอร์ มิวสิค เอเชีย’ หรือ Warner Music Asia (WMA) เป็น 1 ใน 3 ผู้นำอุตสาหกรรมเพลงระดับโลก ตอกย้ำการรับรู้มูลค่าบริษัทของ GMM Music ที่ตอนนี้มีมูลค่าบริษัทสูงกว่า 25,000 ล้านบาทไปแล้ว

นอกจากนั้น ยังอธิบายว่าดีลนี้จะช่วยต่อยอดมูลค่าของ Music IP Assets ของไทย โดยอาศัยศักยภาพของ WMA ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมดนตรีระดับโลก ขยายการรับรู้ของเพลงไทยและศิลปินไทยสู่ฐานผู้ฟังที่ใหญ่ขึ้นทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์ม Digital Streaming อย่าง Spotify และ Apple Music ที่มียอดการใช้งานเติบโตมากที่สุด

ขณะเดียวกัน ระบบการจัดจำหน่ายชั้นสูง (Global Distribution) จากกลุ่ม Warner (ADA) ก็จะช่วยสร้างรายได้สูงขึ้นจากตลาดโลก และรักษาเสถียรภาพของรายได้อย่างต่อเนื่องด้วย

‘ภาวิต จิตรกร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีเอ็มเอ็ม มิวสิค กล่าวว่า “ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา GMM Music ได้ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และล่าสุดกับ WMA นับเป็นการตอกย้ำความสนใจที่มีต่ออุตสาหกรรมเพลงไทยในฐานะประเทศที่มีตลาดเพลงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้พูดถึงความน่าสนใจของอุตสาหกรรมเพลงและการเติบโตของ GMM Music ดังนี้

แล้วอุตสาหกรรมเพลงโลกและไทยน่าสนใจยังไง ?

  • ตลอด 8 ปี (2015-2023) อุตสาหกรรมเพลงทั่วโลกได้เติบโตรวมมากกว่า 100% และทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (Music Second Wave Boom)
  • คาดอีก 6 ปีข้างหน้า (2030) อุตสาหกรรมเพลงจะเติบโตเพิ่มกว่า 100%
  • ปีที่ผ่านมาตลาดเพลงในภูมิภาคเอเชียมีอัตราการเติบโต 15% สูงกว่าอัตราการเติบโตในตลาดโลก

แล้วส่งผลยังไงกับ GMM Music บ้าง?

  • ปี 2023 GMM Music มียอดรายรับ 3,914 ล้านบาท เติบโต 27% มีกำไรสุทธิ 402 ล้านบาท เติบโต 32%
  • ปี 2023 ยอดสตรีมของ GMM Music สะสมทะลุ 100,000 ล้านสตรีม ใน Digital Streaming

จึงไม่แปลกที่ GMM Music ในฐานะบริษัทฯ ที่มีคลังทรัพย์สินทางดนตรี (Music IP Assets) ที่สั่งสมมานานกว่า 40 ปี มี Music Infrastructure ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในไทย และมีธุรกิจ Digital Business (การบริหารจัดการหารายได้ผ่าน Video และ Audio Music Streaming) ที่แข็งแกร่งจะสามารถสร้าง New High ได้ในปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าดีลใหม่นี้จะทำให้รายได้ฝั่ง Music IP เติบโตกว่าเดิม

ภายใต้ความร่วมมือนี้ GMM Music เชื่อมั่นว่า WMA จะเป็นตัวเร่งอัตราการเติบโตทางธุรกิจที่สำคัญให้กับบริษัทฯ ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดย GMM Music ตั้งเป้าหมายในการทำกำไรสุทธิให้เติบโตอีกเท่าตัวภายในปี 2030 สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลงของโลกที่คาดการณ์ว่าจะพุ่งทะยานเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นเดียวกันในปี 2030

ข่าวเกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา