ในยุคที่การเข้าถึงกลุ่ม Gen Z คือความท้าทายสูงสุดของนักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ GMM Music ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจจากงานสัมมนา IPG’s Thought Leadership 2025 ภายใต้คอนเซปต์ “Punch Above The Market” โดยชี้ให้เห็นว่า Digital Music Solutions คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ “รู้ใจ Gen Z” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการ “เข้าถึง” และ “โดนใจ” กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่เหล่านี้อย่างแท้จริง
วันนี้ GMM Music ได้ก้าวข้ามจากบทบาทค่ายเพลงสู่การเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล” ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุค Digital-Native อย่างลึกซึ้ง ผสานการใช้ Data Warehouse ที่แม่นยำเข้ากับมิติทางอารมณ์ที่ดนตรีสร้างขึ้น เพื่อนำเสนอโซลูชันที่ใช้งานได้จริง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าการลงทุนและมี Impact ให้กับแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม
จิพัฒน์ถิกาล ปาณิกบุตร Executive Vice President, Digital Business, GMM Music กล่าวว่า “ในยุคที่ตลาดมีความผันผวนสูงและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว การเข้าใจ ‘ความหมาย‘ และ ‘อารมณ์‘ ที่อยู่เบื้องหลังข้อมูลจึงสำคัญที่สุด GMM Music ภูมิใจที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์ให้กับแบรนด์และนักการตลาด เราไม่ได้แค่บอกว่า Gen Z เป็นอย่างไร แต่เราจะพาแบรนด์ของคุณไป ‘รู้สึก‘ และ ‘เชื่อมโยง‘ กับกลุ่มเป้าหมายได้จริงบนแพลตฟอร์มดิจิทัล และหลักการนี้ใช้ได้กับผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน เราเชื่อว่า Digital Music คือคำตอบที่จะคลายความกังวลให้กับลูกค้าในการตัดสินใจลงโฆษณา หรือสร้างผลลัพธ์ที่ดีในการเข้าถึง Gen Z ได้“
ไขความเข้าใจเกี่ยวกับ Gen Z สู่โฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย Music-Powered Digital
นักการตลาดและแบรนด์จำนวนมากมักเผชิญความท้าทายในการทำความเข้าใจและเข้าถึง Gen Z ซึ่งอาจยังไม่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายนี้ได้ลึกซึ้ง อาจมีความเชื่อที่ว่า:
- “Gen Z ไม่ให้ความสนใจแค่ 3 วิก็ไปแล้ว?”
- “ถ้าไม่พูดภาษาย่อ ๆ คำสแลง ก็ไม่คุยด้วย?”
- “ต้องหน้าตาแบบ T-Pop เป๊ะ ๆ เท่านั้นถึงจะเรียก Engagement ได้?”
- “ถ้าไม่ปรากฏตัวบนแพลตฟอร์มที่ฮิตสุด ๆ วันนี้ ก็คือ Out?”
- “พวกเขาลึกลับซับซ้อน…ไม่มีใครเข้าใจจริง!”
GMM Music พร้อมพิสูจน์ว่า ความจริงอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด ด้วยอินไซต์ที่ลึกซึ้งจากฐานข้อมูลที่เก็บมาจากพฤติกรรมการเสพ Digital Music ทุกวินาที และ Solution Music-Powered Digital ที่ใช้ได้จริง
GMM Music’s Digital Approach: Data + Emotion บนแพลตฟอร์มเพลงดิจิทัล สู่ Solution การสร้างโฆษณาบน Youtube เช่น
- Hyper-targeting at scale (YouTube Ad ตามเนื้อหาเจาะจง): วางโฆษณาบน YouTube ในตำแหน่งที่ผู้บริโภคกำลังตั้งใจเสพคอนเทนต์เพลงเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็น MV, Live Performance หรือ Playlist ที่เกี่ยวข้องกับความสนใจอย่างลึกซึ้ง
ประโยชน์คือ: โฆษณาจะไม่เป็นการขัดจังหวะ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่ Gen Z “ตั้งใจ” ใช้เวลาอยู่กับมันอย่างเต็มที่ ทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มี “High Intention” ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตรงกับข้อมูลพฤติกรรมที่บอกว่า Gen Z ใช้เวลาบน Youtube ยาวนานกว่ากลุ่มมิลเลนเนียลถึง 1.5 เท่า
- Curated Branded Playlists (สร้าง Playlist ตาม Mood & Moment ของ Gen Z): GMM Music ช่วยสร้างสรรค์ Branded Playlists หรือ “Designed Mood Playlists” บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ ที่ถูกคัดสรรมาเพื่อเสริม “อารมณ์” และ “โมเมนต์” เฉพาะของ Gen Z ในแต่ละวัน เช่น Playlist สำหรับจีบกัน อ่านหนังสือข้ามคืน ออกกำลังกาย หรือชิล ๆ ก่อนนอน
ประโยชน์คือ: แบรนด์สามารถเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาสำคัญทางอารมณ์ของผู้บริโภคได้อย่างแนบเนียน ทำให้โฆษณาหรือแบรนด์เชื่อมโยงกับความรู้สึกที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การขายของ ให้ผลลัพธ์เป็นความสนใจ Click ต่อที่โฆษณา ดีกว่าการใช้โฆษณาบนคอนเทนต์อื่น ๆ ใน Youtube ถึง 160%
- Hyper-targeted Ad at Fan Data (โฆษณาตรงใจ Fan & Persona ศิลปิน): ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการฟังเพลงของแฟนคลับศิลปินแต่ละคน เพื่อจำแนก “Persona” (ตัวตน) ที่หลากหลายของ Gen Z จากนั้นวางโฆษณาให้ตรงกับ Persona หรือ Sub-Culture ของกลุ่มแฟนเพลง/ศิลปินนั้น ๆ
ประโยชน์คือ: แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งมีแนวโน้มจะ Engage สูง เพราะรู้สึกว่าแบรนด์ “เข้าใจ” ตัวตนและความชอบของพวกเขาอย่างแท้จริง และขยายผลสู่กลุ่มใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มี Engagement Rate ที่สูงขึ้นกว่าการใช้โฆษณาอื่น ๆ ถึง 40%
- Mood-based Targeted (เลือก Mood ที่แบรนด์เข้าไปอยู่ในชีวิตได้อย่างมีความหมาย): GMM Music วิเคราะห์และเลือก “Mood” (อารมณ์) ที่แบรนด์สามารถเข้าไปอยู่ได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีความหมายที่สุด ไม่ใช่แค่ตามแพลตฟอร์มฮิต แต่ตามบริบททางอารมณ์ที่ผู้บริโภคกำลังอินอยู่
ประโยชน์คือ: โฆษณาจะกลายเป็น “คอนเทนต์ในชีวิต” ที่ไม่ขัดจังหวะ และเชื่อมโยงกับผู้บริโภคในระดับอารมณ์ ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำและสร้างความผูกพันได้ลึกซึ้งกว่าเดิม สามารถดูโฆษณาจบมากกว่ากลุ่มเป้าหมายอื่นถึง 20%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา