ก่อนหน้านี้เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับถูกให้ความสนใจ และเกิดการลงทุนจำนวนมาก แต่ในตอนนี้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์เริ่มให้ความสำคัญกับโลกแห่งความเป็นจริง และเป็นที่มาของการปลดพนักงาน 150 คนของ Cruise
ปลดเพื่อเดินหน้าต่อไป
การปลดพนักงานของ Cruise นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีพนักงานทั้งหมด 150 คนที่ถูกปลดออก คิดเป็น 8% ของทั้งหมด ส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายกลยุทธ์, พัฒนาผลิตภัณฑ์, ออกแบบ และสรรหาพนักงานใหม่ นอกจากนี้ทาง Cruise ยังปลดพนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี Lidar หรือการใช้แสดงเลเซอร์ในการคำนวนการขับขี่ด้วย
สำหรับภาพรวมของ Cruise นั้นถูก GM ควบรวมกิจการไปเมื่อปี 2559 และมี Honda เข้ามาลงทุนเพิ่มอีก 2,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเวลา 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2561 และบริษัทยังมีเงินสดอยู่ในธนาคารกว่า 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจ
“แม้การเปลี่ยนแปลงจะมาถึง แต่ด้วยบริษัทมีแผนธุรกิจชัดเจน และมีเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่ในธนาคาร ทำให้หลังจากนี้บริษัทจะทุ่มเต็มที่เกี่ยวกับการพัฒนาทางวิศวกรรม และยกระดับวิศวกรของ Cruise ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” ตัวแทนของ Cruise แจ้ง
อย่างไรก็ตามก่อนหน้าการปลดพนักงานของ Cruise มีบริษัทเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับรายอื่นๆ ทยอยปลดพนักงานไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น Zoox, Ike, Kodiak Robotics และ Velodyne เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงวิกฤตในการดำเนินธุรกิจรถยนต์ไร้คนขับที่ค่อนข้างเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากในตอนนี้
สรุป
เมื่อทุกคนกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง และพยายามประคองธุรกิจให้รอดพ้นจากวิกฤต COVID-19 ไปให้ได้ สินค้า หรือบริการที่ล้ำจนเกินไป และเกิดขึ้นยากในตอนนี้ก็คงต้องลดบทบาทลง หากบริษัทเหล่านี้ไม่มีเงินทุน หรือสายป่านที่ยาวพอ ก็ไม่แปลกที่ต้องลดค่าใช้จ่าย หรือปิดตัวไป
อ้างอิง // Electrek
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา