เปิด 4 กลยุทธ์การตลาดจากกูลิโกะ บริษัทต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น เจ้าของแบรนด์ป๊อกกี้ (Pocky) ที่ทำยอดขายอันดับ 1 ในตลาดบิสกิตของไทยและอยู่มาถึงแล้ว 53 ปี
กูลิโกะอยู่ในประเทศไทยมา 53 ปีแล้ว
เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของกูลิโกะว่า ในปัจจุบัน กูลิโกะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาแล้ว 53 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในไทยในปี 1970 ส่วนถ้าหากนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทในญี่ปุ่น ปัจจุบันธุรกิจมีอายุ 102 ปีแล้ว
กูลิโกะเริ่มจำหน่ายเพรทซ์เป็นผลิตภัณฑ์แรกในประเทศไทยในปี 1971 ก่อนที่จะเริ่มจำหน่ายป๊อกกี้ในปีต่อมา จากนั้นได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประเภทไอศกรีมในปี 2016 และนมอัลมอนด์ โคกะในปี 2022
กูลิโกะมีสาขาและตัวแทนจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่นใน 12 ประเทศ โดยสัดส่วนยอดขายในปี 2023 แบ่งเป็น ยอดขายจากธุรกิจในญี่ปุ่น 20% ยอดขายนอกญี่ปุ่น 21% ธุรกิจขนม 19% ธุรกิจนม 21% ธุรกิจอาหาร 4% และธุรกิจใหม่ล่าสุดคือสุขภาพและอาหารอีก 15%
สำหรับจุดขาย กูลิโกะเน้นย้ำที่รสชาติอร่อยและดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) เพื่อพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับสภาพอากาศและพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย
กูลิโกะยังชูการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน ในปี 2023 บริษัทใช้กระดาษลดลง 15% พลาสติกลดลง 11% ใช้น้ำมันปาล์ม RSPO ในทุกผลิตภัณฑ์ขนมเป็นบริษัทแรกเริ่มจากป๊อกกี้ที่ผลิตในปี 2021 ปัจจุบันกำลังพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อลด Food Waste
4 กลยุทธ์การตลาดของกูลิโกะในปี 2024
ในปี 2023 มูลค่าตลาดบิสกิตอยู่ที่ 15,700 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6% และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกูลิโกะมีสัดส่วนการตลาดอยู่ที่ราว 10% และป๊อกกี้ยังทำยอดขายอันดับ 1 ในตลาดบิสกิตอีกด้วย
สำหรับในปี 2024 กูลิโกะตั้งเป้าการเติบโตของบริษัทไว้ที่ตัวเลข 2 หลัก มองมีปัจจัยบวกหลัก ๆ คือ ตัวเลขคาดการณ์ GDP ที่สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว สะท้อนกำลังซื้อของผู้้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหลังจากผ่านช่วงโควิด ร้านค้าขนมหรือร้านโชห่วยจะกลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้ ยังมีคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว ทำให้จะเข้ามาซื้อสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ Local Flavor ที่มีเฉพาะแค่ในประเทศไทย
ดวงกมล ชุลิกาวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท ไทย กูลิโกะ จำกัด ได้เล่าให้ฟังถึง 4 กลยุทธ์หลักทางการตลาดของกูลิโกะสำหรับปีนี้ด้วย
สร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่
กูลิโกะได้ออกผลิตภัณฑ์ป๊อกกี้ ครัช เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรสชาติขนมที่หลากหลาย พร้อมชูจุดขายของสินค้าใหม่ คือ ป๊อกกี้ ครัช ฟุต อยู่ที่ผลไม้ชิ้นใหญ่ และป๊อกกี้ ครัช นัท อยู่ที่การเคลือบช็อกโกลแลต 2 ชั้นหรือดับเบิลดิป พร้อมดึงซีและนุนิวมาเป็นพรีเซนเตอร์ในฐานะ Gulico Friend เจาะกลุ่มลูกค้า Gen Z
ในเดือนมีนาคมนี้ กูลิโกะจะออกผลิตภัณฑ์ป๊อกกี้ใหม่เป็นรสชีสเค้ก พร้อมทั้งเปิดเผยว่าจะออกสินค้าใหม่ 1-2 ตัวต่อปี
ปัจจุบัน แบรนด์ป๊อกกี้มี 3 กลุ่มสินค้าหลัก คือ กลุ่ม Standard หรือรสชาติหลัก 5 รส (รสช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี คุกกี้และครีม มิลค์กี้มัทฉะ และนัตตี้อัลมอนด์) กลุ่ม Premium คือ ครัชฟรุตและครัชนัท 4 รสชาติ และกลุ่ม Local Flavour รสมะม่วงและกล้วยที่เจาะกลุ่มชาวต่างชาติและมีขายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
เพิ่มการรับรู้ สร้างการจดจำให้กลุ่มลูกค้าปัจจุบัน
ในปีนี้ กูลิโกะจะเน้นทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์และทีวีอย่างการดึงซีและนุนิวเข้ามาเป็น Gulico Friend พร้อมโฆษณาสินค้าผ่าน KOLs ขณะที่จะทำการตลาดผ่านสื่อนอกบ้านด้วย เช่นป้ายโฆษณาบน BTS หรือจอ LED
นอกจากนี้ กูลิโกะตั้งเป้าให้ป๊อกกี้เป็นขนมที่อยู่ในเทรนด์ผ่านการตลาดแบบเพลงบนโซเชียลมีเดียและการเป็นสปอนเซอร์ให้กับวิดีโอเพลงต่าง ๆ พร้อมจัด Pocky Day Event นอกสถานที่ด้วย
เพิ่มโอกาสการบริโภคให้มากขึ้นของกลุ่มเป้าหมาย
มีการทำ Pocky Cafe หรือร้านขายเครื่องดื่มตามรสชาติของขนมป๊อกกี้ที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ในปีนี้จะมีการเพิ่มเมนูอื่นตามมา และมีแผนที่จะขยาย Pocky Cafe ไปยังสถานที่อื่นด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสการบริโภคที่ไม่ใช่แค่ในรูปแบบขนม โดยจะเปิดร้านที่ Park Silom เป็นจุดแรก และจะมี Road Show อย่างน้อย 20-30 ที่ทั่วประเทศ
เพิ่มโอกาสการซื้อ
กูลิโกะเพิ่มโอกาสในการซื้อผ่านตัวเลือกราคาและปริมาณของกลุ่มผลิตภัณฑ์ป๊อกกี้ที่มีหลายรส หลายขนาด ทั้งชนิดพรีเมี่ยม มาตรฐาน ขนาดปกติ ขนาดมินิ แบบแชร์แพ็คที่เหมาะสำหรับการกินเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน รวมทั้งยังเน้นไปที่ Local Flavor รสกล้วยและมะม่วงที่ออกแบบกล่องเป็นรูปลิงและช้างที่กำลังเป็นกระแสจากกางเกงช้าง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทยที่ต่างชาติรู้จัก และมีแผนที่จะเพิ่มรสชาติอื่นต่อไป
กูลิโกะยังเน้นย้ำเอกลักษณ์สำคัญ 3 อย่างของป๊อกกี้ด้วย คือ ทานง่าย ไม่เลอะมือ กรอบอร่อย และมีเสียงป๊อกที่สร้างความสนุก นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์อื่นด้วยอย่าง พีจอย เพรทซ์ โคลลอน ฯลฯ
ที่มา – กูลิโกะ
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา