ใครจะคิดว่าธุรกิจอย่างร้านขายแว่นตาที่ต้องมีการเลือก “กรอบแว่น” ก่อนลองใส่ พร้อม “วัดค่าสายตา” ในการตัดเลนส์ จะกลายมาเป็นธุรกิจที่ใช้ e-Commerce ให้เกิดประโยชน์ได้ เมื่อ “GLAZZIQ” เห็นถึงช่องว่างนั้น จึงเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าวัยรุ่นที่แค่คลิกๆ สั่งบนหน้าเว็บไซต์ ก็สามารถได้แว่นมาลองถึงบ้าน กับสไตล์ที่เรียบง่าย มีเอกลักษณ์ ที่สำคัญคือ คุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้
GLAZZIQ เกิดขึ้นได้อย่างไร
จากประสบการณ์ของ ทีมงานก่อตั้ง GLAZZIQ การเลือกซื้อแว่นสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ แม้จะสามารถซื้อได้ทั้งที่หน้าร้านและออนไลน์ ทั้งสองช่องทางมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เช่น เลือกแบบไม่ถูก บางอันราคาสูงเกินไป หรือตัวแว่นไม่ได้คุณภาพ จึงต้องการสร้างประสบการณ์ในการซื้อแว่นตาในรูปแบบ Omnichannel ใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางให้ลูกค้าสามารถเลือกแว่นคู่โปรด ด้วยการนำเสนอแว่นแบรนด์ของ GLAZZIQ ที่ผลิตกับโรงงานระดับโลก และมีบริการวัดสายตาและบริการหลังการขายที่ร้านพันธมิตร
จุดเด่นหลักของ GLAZZIQ
GLAZZIQ คือ สตาร์ทอัพ อีคอมเมิร์ช ที่เป็นร้านแว่นตาออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แห่งยุคดิจิทัล ลูกค้าเป็นกลุ่มคนวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่เป็นคนฉลาดซื้อ และไม่ได้ยึดติดกับการซื้อของ Brand Name เพื่อที่จะโชว์ว่าตัวเองใส่ของแพง แต่มองหาของที่ดีในราคาที่คุ้มค่า และมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ซื้อแว่นให้ง่ายและสนุกกว่าเดิม ด้วยแว่นตา GLAZZIQ นั้น เป็นแว่นตาแฟชั่นที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ผลิตตรงจากโรงงานโดยไม่ผ่านคนกลางทั้งกรอบและเลนส์ ทำให้ได้ทั้งคุณภาพ ดีไซน์ และราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ กรอบพร้อมเลนส์สายตาย่อบางเริ่มต้นที่ 1,990 บาท
ไม่ใช่ขายอย่างเดียว ลูกค้าต้องได้ลอง
ปกติซื้อของออนไลน์มักไม่มีโอกาสได้ลอง แต่สำหรับ GLAZZIQ นอกจากการสั่งซื้อแว่นตาผ่านหน้าเว็บไซต์ ลูกค้าก็ยังสามารถลองแว่นได้ก่อนซื้ออีกด้วย เมื่อลูกค้าเช้ามาในเว็บแล้วเจอแว่นรุ่นที่ชอบ ลูกค้าสามารถสั่งให้ส่งตัวอย่างไปลองที่บ้าน และค่อยนำไปคืนที่ 7-ELEVEN ถ้าเจอกรอบแว่นที่ถูกใจแล้ว ก็เข้าไปซื้อออนไลน์ได้เลยและจะสามารถไปวัดสายตาที่ร้าน หอแว่น และ Better Vision ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีสาขากว่า 100 แห่งทั่วไทย โดยแจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้สั่งซื้อ หรือถ้ามีค่าสายตาอยู่แล้ว ก็จะสามารถสั่งตัดได้เลยเหมือนกัน จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน สินค้าจะส่งถึงบ้าน
มีที่ให้ลองแต่เป็นใน “ร้านกาแฟ”
ไม่ใช่ว่าจะมีแค่บริการสั่งแว่นไปลองใส่ที่บ้านอย่างเดียว แต่ GLAZZIQ เลือกที่จะหาสถานที่ให้ลูกค้ามีความผ่อนคลาย เข้ากับไลฟ์สไตล์ชิลๆ ด้วยการไปร่วมมือกับร้านกาแฟดัง 2 แห่ง ในจุดที่รถไฟฟ้าผ่านสะดวกคือร้าน Printa Cafeé ตรงสีลมหลังวัดแขก และที่ Casa Lapin สาขาเมเจอร์เอกมัย ให้ลูกค้าไปจิบกาแฟ ชวนเพื่อนๆ ไปลองแว่นกัน
พาร์ทเนอร์ร้านแว่น-เลนส์ เติมเต็มสิ่งที่ออนไลน์ไม่มี
สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่า GLAZZIQ จะเป็นร้านจำหน่ายแว่นออนไลน์ แต่มีบริการวัดสายตาให้ลูกค้าได้ใช้กัน โดยเลือกเข้าไปเป็นพันธมิตรกับ “หอแว่น” และ “Better Vision” ที่มีสาขาให้บริการกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศกว่า 100 สาขา ในมุมนึงลูกค้าอาจจะแปลกใจว่าทำไมร้านค้าถึงยอม แต่จริงๆ แล้ว GLAZZIQ มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการ
ที่สำคัญคือลูกค้าของ GLAZZIQ จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นคนละกลุ่มลูกค้ากับหอแว่น ทำให้หอแว่นก็ได้ประโยชน์จากการที่มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการมากขึ้น หรือถ้าลูกค้าต้องการตัดเลนส์แบบพิเศษ อย่างเช่นเลนส์ Progressive (เลนส์สองชั้น) ก็สามารถใช้บริการกับร้านหอแว่นได้โดยตรง ช่วยเสริมซึ่งกันและกัน โดยลูกค้าของ GLAZZIQ ก็สามารถเข้าไปใช้บริการหลังการขายได้ด้วย
สำคัญ คือ เว็บต้องง่าย สนุก และเรียนรู้ลูกค้า
หนึ่งในความท้าทายของ GLAZZIQ คือการเตรียมระบบหลังบ้าน และเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานของลูกค้า ภายใต้โจทย์หลัก คือ ต้องสร้างประสบการณ์ซื้อแว่นที่ดีในทุกๆ ด้าน ดังนั้น ในเว็บไซต์ต้องมีฟีเจอร์อย่างระบบ Filter มาช่วยให้ค้นหาแบบแว่นคู่โปรด รวมถึงการลงทุนนำ Machine Learning มาใช้เพื่อศึกษาความชอบของลูกค้า ให้การแสดงผลเข้าถึงเฉพาะรายบุคคล ในแต่ละแบบ และเฉดสีที่ชื่นชอบ
รวมถึงต้องมีการแสดงรายละเอียดให้ครบถ้วนทั้งภาพแว่นแบบ 180 องศา มีการถ่ายแบบภาพโชว์สไตล์การแต่งตัวให้เข้ากับเสื้อผ้า การพัฒนาฟีเจอร์ในการสั่งกรอบแว่นคู่กับเลนส์สีแบบ Customize ให้ไม่ซ้ำกับใคร
เป้าหมาย ขยายสู่ตลาดโลก
สำหรับเป้าหมายในระยะยาวของ GLAZZIQ คือ ต้องการให้เว็บเป็นช่องทางที่ลูกค้าสามารถเข้ามาสั่งซื้อได้จากทั่วทุกมุมโลก โดยการตัดประกอบเลนส์จะอยู่ที่ประเทศไทย เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตที่ราคาไม่สูงพร้อมทั้งมีบุคลากรที่มีคุณภาพ สามารถส่งออกไปหาลูกค้าได้โดยตรง ด้วยการร่วมมือกับโรงงานเลนส์ระดับโลกที่ส่งออกไปทั่วโลก ซึ่งใช้เครื่องจักรและระบบที่ทันสมัยในการตัดประกอบเลนส์ รองรับออเดอร์ปริมาณมากได้
ทุกขั้นตอนในการให้บริการของ GLAZZIQ ถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี ด้วยการศึกษา Customer Journey ของลูกค้า และนำมาปรับให้เหมาะสมด้วยการผสมผสานช่องทางแบบ Omnichannel เพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์สั่งตัดแว่นที่ดีที่สุด
สำหรับ หนุ่มแว่นสาวแว่น ที่สนใจ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บได้ที่ www.glazziq.com หรือจะไปติดตามเรื่องราวของแบรนด์ผ่านช่องทาง Social (Instagram/Facebook/LINE: @glazziq) ก็ได้เช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา