ในช่วงหลายปีมานี้ Gibson เผชิญปัญหาการเงินจากมรสุมหนี้ที่รุมเร้า รวมถึงยอดขายที่ตกต่ำ ล่าสุด ได้ยื่นเรื่องขอล้มละลายต่อศาลแล้ว
Gibson แบรนด์ผู้ผลิตกีตาร์ชื่อดัง ยื่นขอล้มละลายต่อศาลในสหรัฐอเมริกา สาเหตุหลักมาจากปัญหาทางการเงินและหนี้สินที่รุมเร้า
Bloomberg รายงานว่า หนี้สินของ Gibson ปัจจุบันมีสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยในจำนวนหนี้ทั้งหมดของ Gibson แบ่งออกเป็นหนี้ที่กู้จากธนาคารและตราสารหนี้
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Gibson ได้ชำระค่าดอกเบี้ยในตราสารหนี้ไปเพียง 16.6 ล้านดอลลาร์ จากยอดเงินกู้ที่สูงถึง 375 ล้านดอลลาร์ ประเด็นคือหนี้ก้อนนี้มีกำหนดเวลาให้ชำระเงินภายในวันที่ 23 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ และหาก Gibson ไม่สามารถชำระหนี้ก้อนนี้ได้จะทำให้ต้องเจอกับหนี้เงินกู้อีกจำนวน 145 ล้านดอลลาร์
Gibson รู้ตัวดีว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนดเวลาจึงขอยื่นล้มละลาย เพราะการยื่นขอล้มละลายต่อศาลในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ทำให้ Gibson ได้ปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทและทำให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไป
ส่วนกระแสข่าวการลาออกของ Henry Juszkiewicz ซีอีโอ Gibson ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า หลังการยื่นขอล้มละลายในครั้งนี้ เขาจะทำงานต่อในตำแหน่งเดิมหรือเปลี่ยนบทบาทในบริษัทหรือไม่
Gibson เป็นแบรนด์ที่มีอายุกว่า 116 ปี จากสถิติระบุว่ามียอดขายกีตาร์ทั่วโลกถึง 170,000 ชิ้นในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งถือครองส่วนแบ่งตลาดของกีตาร์ไฟฟ้าที่มีราคาสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์ไว้ถึง 40%
ปัจจุบัน Gibson มีพนักงานทั้งหมดจำนวน 875 คน
ข้อมูล – Bloomberg, CNBC, Nashville Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา