รู้ยัง? ชาว Introvert กำลังยึดครองเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา!
ใครจะไปคิดว่าการแบ่งประเภทคนแบบกว้างๆ อย่าง Introvert, Extrovert ไปจนถึง Ambivert จะส่งผลต่อเศรษฐกิจมากมายขนาดนั้น แต่ Allison Schrager คอลัมนิสต์จาก Bloomberg มองว่า นับตั้งแต่ที่เกิดโควิดระบาด คนอเมริกันจำนวนมากต้องหมกตัวอยู่กับบ้าน
ช่วงนั้นผู้คนจากทั่วโลกก็ต้องอยู่กับบ้านกันทั้งโลกเหมือนกัน แต่ Schrager ที่เฝ้าสังเกตการณ์ความเป็นไปของผู้คนในสหรัฐอเมริกามองว่า หลังจากที่คนอเมริกันต้องอยู่แต่บ้าน ทำให้ในที่สุด หลายๆ คนก็พบว่า พวกเขามีความต้องการที่อยากจะอยู่บ้านมากกว่าจะออกไปไหน แม้โลกจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ชีวิตคนอเมริกันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วเรียบร้อย
รู้จักที่มา..ของ “Introvert Economy”
ผลจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้คนอเมริกันจำนวนมากสามารถทำงานจากบ้านได้ หลายคนหันมาชอปปิงออนไลน์มากกว่าช่วงก่อนโควิดระบาด อาจกล่าวได้ว่า โควิดเป็นตัวเร่งและเป็นตัวสร้างให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Introvert Economy” หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือ เศรษฐกิจที่เกิดจากผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ลำพัง อยู่คนเดียว มีชีวิตที่สันโดษ
ผลจากโควิดทำให้คนอเมริกันออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านน้อยลง เขายกตัวอย่างมหานครอย่างนิวยอร์กว่าเป็นเมืองฮอตของคนเมือง ปกติผู้คนจะไม่ไปร้านอาหารก่อน 2 ทุ่มเลย แต่นับจากโควิดระบาด เวลายอดนิยมที่คนมักไปร้านอาหารกลายเป็นช่วงเย็นเวลา 5 โมงครึ่ง มากกว่าจะเป็นช่วง 2 ทุ่มเหมือนเดิม ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานพบว่า หลังโควิดระบาด หนุ่มสาวชาวอเมริกันที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี ล้วนเริ่มออกจากบ้านไปสังสรรค์ในเวลากลางคืนเร็วขึ้น เช่น เมื่อก่อนอาจไปตอนดึกๆ แต่ตอนนี้พอเริ่มค่ำๆ หน่อยก็เริ่มออกมาแล้ว ไม่ต้องรอให้ดึกเหมือนเดิม
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Gallup ยังเผยข้อมูลจากการดื่มแอลกอฮอล์จากคน 3 ช่วงวัย แบ่งเป็น 3 ช่วงเวลา ดังนี้ ช่วงปี 2001-2003, ปี 2011-2013 และ ปี 2021-2023 พบว่าคนอเมริกันมีแนวโน้มเป็นนักดื่มน้อยลงด้วย แบ่งได้ตามนี้
- คนที่อายุระหว่าง 18 ปีถึง 35 ปีคือกลุ่มคนที่ดื่มแอลกอฮอล์น้อยลง ถือว่าน้อยลงกว่า 20 ปีก่อนหน้า จากเดิม 72% เป็น 62%
- ส่วนคนที่อยู่ในวัย 35 ปีถึง 54 ปียังเป็นคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ในอัตราที่สูงคงเดิม คือดื่มในระดับ 69%
- ในขณะที่คนวัย 55 ปีขึ้นไปกลับดื่มเพิ่มมากขึ้น จากเดิม 49% เป็น 59%
Schrager มองว่า คน Gen Z ยังถือเป็นกลุ่มคนที่เคร่งขรึมที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาด้วย แถมคนโสดยังมีโอกาสที่จะพบปะกันในที่สาธารณะน้อยลงและเลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวตนและมีขอบเขตที่ชัดเจนในการเข้าสังคมผ่านการประชุมออนไลน์ หมายความว่า มีความจำเป็นที่จะออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านน้อยลง ขณะที่คนที่อาวุโสกว่ายังคงสังสรรค์และมีการดื่มแอลกอฮอล์ในระดับที่มากกว่า และอาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีการใช้จ่ายด้านแอลกฮอล์เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีสัดส่วนการดื่มตามบาร์และร้านอาหารน้อยลง
เทคโนโลยีไม่เพียงทำให้การทำงานง่ายและสะดวกมากขึ้น แต่ยังเปลี่ยนพฤติกรรมการเอนเตอร์เทนของผู้คนแตกต่างไปจากเดิม จากเดิมต้องดูรายการทีวีตามช่วงเวลาที่ทีวีกำหนดตามผังรายการ แต่ปัจจุบันเป็นการดูตามความต้องการของผู้ต้องการเสพความบันเทิง มีทางเลือกให้คนเลือกที่จะเอนเตอร์เทนตัวเองจากบ้านมากขึ้น การออกไปใช้ชีวิตข้างนอกจึงน้อยลงตามไปด้วย
นอกจากนี้ การใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์พบว่า คนในช่วงวัย 25-34 ปีใช้ชีวิตในการพบปะเพื่อนฝูงหรือเข้าสังคมในช่วงวันหยุดน้อยลง ขณะที่คนวัย 18 ปีขึ้นไป เข้าสังคมน้อยลง หันมาดูทีวีและเล่นเกมมากขึ้น ผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาก็คือ บาร์ หรือร้านอาหารที่ต้องพึ่งพาการหากำไรจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจจะต้องหาวิธีที่จะลงทุนเกี่ยวกับการเดลิเวอรี่มากขึ้น ขณะเดียวกัน ร้านอาหารก็ต้องมีเครือข่ายมากขึ้นเพื่อที่จะหาประโยชน์จากการประหยัดจากขนาดเพิ่มด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา