เยอรมันเริ่มแล้ว! ทยอยปิดไฟ กำหนดใช้น้ำร้อน-เย็น: ฮันโนเวอร์ มิวนิค นูเรมเบิร์กไปก่อน

ใครที่สนใจอยากไปอยู่ ไปเที่ยว ไปกินที่เยอรมันตอนนี้คงต้องคิดหนักหน่อย เพราะปัญหาพลังงานของยุโรปที่พึ่งพารัสเซียเริ่มส่งผลกระทบแล้ว อย่างที่เรารู้กันดีว่ายุโรปพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียค่อนข้างมาก เมื่อต้องการคว่ำบาตรรัสเซียที่บุกยูเครนก็ใช้วิธีอายัดสินทรัพย์บ้าง จัดการกับบรรดาเศรษฐีรัสเซียที่คาดว่าจะเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ปูตินบ้าง หลายธุรกิจก็หันหลังให้รัสเซียด้วยการถอนตัวออกจากประเทศบ้าง ด้วยท่าทีดังกล่าวนำไปสู่การลดส่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียให้ชาติยุโรปน้อยลง

หลายชาติในยุโรปเริ่มประสบปัญหาในการใช้ชีวิตกับท่าทีดังกล่าวของรัสเซีย เพราะฤดูหนาวก็ใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าไม่มีพลังงาน อากาศหนาวในยุโรปที่หนักหนาสาหัสกว่าชาติเอเชียหลายเท่า ประชาชนในยุโรปจะอยู่อย่างไร?

German

ด้วยเหตุนี้ เยอรมันจึงเริ่มก่อนเลย เริ่มประหยัดการใช้พลังงาน .. เค้าทำยังไงบ้าง?

เมือง Hanover คือเมืองหลวงขนาดใหญ่และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐ Lower Saxony เริ่มออกมาตรการให้ลดการใช้พลังงานแล้ว ด้วยการเริ่มปิดไฟสปอตไลท์ที่บริเวณอนุสาวรีย์ ปิดน้ำพุ และกำหนดให้มีระยะเวลาในการอาบน้ำเย็นในสระว่ายน้ำและสนามกีฬาของเทศบาล ทั้งนี้ก็เพื่อลดการบริโภคพลังงานหลังรัสเซียเริ่มการลดส่งออกพลังงานมายังชาติยุโรป

แม้เมือง Hanover จะมีขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐ Lower Saxony แต่ก็มีขนาดเพียง 47,593 ตารางกิโลเมตร ถือว่ายังมีพื้นที่เป็นรองกว่าเมืองมิวนิคของรัฐบาวาเรียซึ่งเป็นรัฐที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี มีขนาดพื้นที่ราว 70,550 ตารางกิโลเมตร โดย Hanover นั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเยอรมนีและเป็นเมืองแรกที่เริ่มออกมาตรการเช่นนี้ มีคำสั่งให้ปิดน้ำร้อนสำหรับอาบน้ำในห้องนำ้ของศูนย์พักผ่อนในตัวเมืองด้วย

ทั้งนี้ ตัวอาคารของเทศบาลเมืองจะได้รับความร้อนระดับอุณหภูมิห้องไม่เกิน 20 องศาเซลเซียสในช่วงระหว่างวันที่ 1 ตุลาคมถึง 31 มีนาคม และห้ามใช้เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่และพัดลมฮีทเตอร์หรือพัดลมทำความร้อน คำสั่งดังกล่าวยกเว้นไว้สำหรับเนิร์ซเซอรี่ โรงเรียน สถานที่ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาล เรื่องนี้ Belit Onay ผู้ว่าการรัฐจากพรรคกรีนระบุว่า นี่เป็นสถาการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ทุกๆ กิโลวัตต์-ชั่วโมงนั้นมีคุณค่ามาก เราจำเป็นต้องปกป้องโครงสร้างพื้นฐานของเราเป็นอันดับแรกๆ

เมือง Hanover นั้นตั้งเป้าว่าจะลดการใช้พลังงานได้ราว 15% หลังคณะกรรมาธิการยุโรปได้ขอให้รัฐสมาชิกพยายามลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่มาจากรัสเซีย ในขณะที่เบอร์ลินเมืองหลวงของเยอรมนีมีอนุสาวรีย์มากราว 200 แห่ง หลังมีคำสั่งนำร่องจากเมืองหลวงขนาดใหญ่อย่าง Hanover แล้วก็น่าจะทำให้เมืองที่มีขนาดรองๆ ลงมาทยอยออกนโยบายเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานเช่นเดียวกัน

นอกจากเมือง Hanover แล้ว เมืองมิวนิคที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนีก็ประกาศว่าจะปิดไฟสปอตไลท์บริเวณจตุรัสมาเรียนปลาทซ์ (Marienplatz square) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเทศบาลของเมืองของมิวนิคเช่นกัน โดยปกติจะเปิดไฟจนถึง 23.00 น.และมีเฉพาะน้ำเย็นในสำนักงานของเทศบาล คาดว่าจะปิดน้ำพุด้วยในช่วงกลางคืน

ไม่ใช่แค่มิวนิคที่ทำเมือง Nuremberg เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของรัฐบาวาเรียก็เตรียมปิดสระว่ายน้ำในร่ม 3 แห่งจากทั้งหมด 4 แห่งและจะเปิดให้บริการสำหรับสระกลางแจ้งที่เหลืออยู่จนถึง 25 กันยายน ส่วนเดือนเมษายนที่ผ่านมา เบอร์ลินก็ประกาศมาตรการให้สระว่ายน้ำกลางแจ้งรักษาระดับอุณหภูมิที่ต่ำกว่ามาตรฐาน 2 องศาซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศตลอดช่วงฤดูร้อนด้วย

Russia natural gas exports

ภาพด้านบน คือสัดส่วนการส่งออกก๊าซธรรมชาติของรัสเซียไปยังประเทศต่างๆ ในช่วงปี 2020 ก่อนที่จะบุกยูเครน จะเห็นว่าส่งไปยังประเทศยุโรปมากถึง 72% ตามด้วยประเทศที่ไม่ใช่ยุโรปและยูเรเซีย 17% ขณะที่เอเชียและโอเชียเนียนั้นรัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติได้มากถึง 11%

โดยแบ่งเป็นยุโรป 72% นั้นพบว่า รัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังเยอรมนีมากสุดอยู่ที่ 16% ตามด้วยอิตาลี 12% ประเทศอื่นๆ ใน OECD, ยุโรปรวม 10% ตามด้วยฝรั่งเศส 8% ตุรกี 6% เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลีย 5% ตามด้วยโปแลนด์ อังกฤษ 4% และฮังการี 3%

ส่วนประเทศที่ไม่ใช่กลุ่ม OECD และยูเรเซีย 17% นั้นประกอบด้วยประเทศเบลารุส 8% คาซัคสถาน 5% และประเทศอื่นๆ 5% ส่วนเอเชียแบ่งเป็นจีน 5% ญี่ปุ่น 4% และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย 3%

ที่มา – Guardian, EIA

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา