การที่กลุ่มประเทศยุโรปเปลี่ยนมาตรฐานทดสอบรถยนต์จาก NEDC เป็น WLTP เมื่อเดือนก.ย. 2560 ก็ทำเอาค่ายรถเยอรมันที่ทำตลาด Plug-in Hybrid ต้องใส่เกียร์ว่าง เพราะไม่ผ่านเกณฑ์จนไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
รู้จักมาตรฐานใหม่ที่ตรวจกันเข้มขึ้น
อาจมาจากกรณีโกงค่าไอเสียของ Volkswagen ทำให้กลุ่มประเทศยุโรปตัดสินใจปรับเกณฑ์การทดสอบรถยนต์ใหม่จากเดิมที่ใช้ NEDC (New European Driving Cycle) มาตั้งแต่ช่วงปี 2523 เป็น WLTP (Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure) ที่เข้มข้นในการตรวจสอบมากกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระยะทาง และเวลาในการขับขี่, จำนวนครั้งในการทดสอบ รวมถึงการทำความเร็วที่มากขึ้น ซึ่งจุดนี้เองก็ไปกระทบกับรถยนต์กลุ่ม Plug-in Hybrid ที่ปกติแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ หากสามารถปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ต่ำกว่า 50 กรัม/กม. เพราะพอเปลี่ยนเกณฑ์การทดสอบใหม่ก็ไม่สามารถทำค่าดังกล่าวได้
โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมันทั้ง Mercedes-Benz, BMW, Volkswagen รวมถึง Porsche ที่ต่างตัดสินใจหยุดจำหน่ายรถยนต์ Plug-in Hybrid เพื่อไปปรับแต่งเครื่องยนต์ให้สามารถปล่อยค่าไอเสียได้ตามเกณฑ์ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก่อน
สำหรับกลุ่ม Volkswagen นั้นหยุดจำหน่าย Golf GTE และ Passat GTE แบบเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid แล้ว ซึ่งทั้งสองรุ่นนั้นมีความสำคัญต่อการทำตลาดรถยนต์แบบนี้ของ Volkswagen มาก เพราะมียอดขายเป็นอันดับ 4 และ 2 ตามลำดับของภาพรวมการขายรถยนต์ Plug-in Hybrid ของทุกแบรนด์ในตลาดยุโรป
ส่วนแบรนด์ลูกอย่าง Porsche ก็หยุดจำหน่าย Panamera กับ Cayenne รุ่น Plug-in Hybrid แล้วเช่นกัน ด้านแบรนด์ Mercedes-Benz นั้นหยุดจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว แต่จะนำ S-Class และ E-Class แบบ Plug-in Hybrid กลับมาจำหน่ายในอีกสองเดือนข้างหน้า ส่วน C-Class นั้นอาจต้องรอถึงปี 2562
สรุป
เมื่อรถยนต์แบบ Plug-in Hybrid ยังมีราคาสูง และต้องการสิทธิประโยขน์ต่างๆ มาจูงใจให้ผู้บริโภคสั่งซื้อ การผลิตรถยนต์ให้ได้ตามเกณฑ์สิทธิประโยชน์ก็จำเป็น จึงไม่แปลกที่ค่ายรถจากเยอรมันที่ไม่สามารถทำตามเกณฑ์ได้ต่างพาเหรดกันหยุดจำหน่าย Plug-in Hybrid ออกไปก่อน
อ้างอิง // Electrek, WLTP facts
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา