พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการยื้อเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เป็นเรื่องของกระบวนการ เรื่องของสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. สั่งใครไม่ได้ ทุกคนมีความคิดของตัวเอง
เรื่องผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนที่บอกว่าพร้อมชน พลเอกประยุทธ์ ยืนยันไม่รู้ว่า พร้อมชนหมายถึงอะไร ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น โดยระบุว่ามีการทำร้ายคนต่างชาติเกิดขึ้น ความคิดเห็นแตกต่างกันบ้างก็อย่าทำร้ายกันเพราะเสียภาพลักษณ์คนไทย เราต้องอยู่ตรงกลางให้ได้ รัฐบาล ฝ่ายกฎหมายพยายามอดทน อดกลั้นมามากแล้ว ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย เขาอดกลั้นตั้งเท่าไรแล้ว เขาทำเพื่อใคร ทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่หรือเปล่า ให้ไปดูตรงนั้นด้วย การเสนอข่าวอะไรก็ไม่ไปห้ามอะไรอยู่แล้ว เป็นเรื่องความรับผิดชอบของคนไทยทั้งประเทศ
ขอให้อย่ากระทบกระทั่งกันเด็ดขาด พยายามอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้าไม่ปฏิบัติก็คือความผิด เจ้าหน้าที่ไม่ทำงานก็คือมีความผิด เราก็ใช้ทุกมาตรการอยู่แล้ว หลายอย่างอยู่ในกระบวนการรัฐสภา หลายอย่างอยู่ในกลไกแก้ปัญหา ถ้าทุกคนไม่รับอะไรกันเลย จะไปทางไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน พลเอกประยุทธ์กล่าว
ด้านสื่อต่างประเทศ อาทิ Aljazeera รายงานถึงการชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่รัฐใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุมซ้ำสองรอบแล้ว หลังจากครั้งแรกฉีดน้ำแรงดันผสมสารเคมีที่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่ทราบส่วนผสมสารเคมีประกอบด้วยอะไรบ้างเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม
การชุมนุมรอบล่าสุดนี้ ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่ามีคนรวมตัวชุมนุมมากกว่า 10,000 คน จากนั้นจึงสัมภาษณ์ผู้ชุมนุม ซึ่งก็มีผู้ให้ข้อมูลระบุว่า ประชาชนแค่เพียงต้องการยื่นราษฎรสาสน์ หรือจดหมายเพื่อเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ข้อเรียกร้องประกอบไปด้วย
- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและองคาพยพต้องลาออก
- แก้ไขรัฐธรรมนูญ
- ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ด้าน The Guardian ก็รายงานข่าวเช่นกันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำอัดเข้าหาฝูงชนที่กำลังชุมนุมอยู่หลังจากที่กำลังจะเริ่มกิจกรรมยื่นจดหมายหรือข้อความส่งถึงสถาบันกษัตริย์ ทั้งนี้ ประชาชนที่ออกมาชุมนุมราว 84 คนถูกดำเนินคดีมาตั้งแต่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว ขณะที่ U.S News และ CNA ก็เผยแพร่ข่าวประเด็นเดียวกัน
ที่มา – ทำเนียบรัฐบาล, Aljazeera, The Guardian, U.S. News, CNA
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา