GroupM เผยผลวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลของกลุ่ม New Internet User ที่ตอนนี้ได้กลายเป็น Generation of Now มีพฤติกรรมใกล้เคียงกับคนยุคใหม่แล้ว เป็นอีกกลุ่มที่นักการตลดาควรจับตามอง
อินเทอร์เน็ตเข้าอยู่ในวิถีชีวิต
GroupM มีเดียเอเยนซี่รายใหญ่ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่ม New Internet User มาตั้งแต่ปี 2015 เป็นกลุ่มคนที่เริ่มใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ไม่ได้ใช้ผ่านคอมพิวเตอร์ คนกลุ่มนี้อาจจะเป็นคนใกล้ตัวอย่างพ่อแม่ ผู้สูงอายุ ที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตตามลูกหลาน และเป็นประจำทุกปีที่จะนำเสนอผลวิจัยนี้ภายในงาน GroupM Focal 2018
ซึ่งทาง GroupM ได้ติดตามผลมาเรื่อยๆ จนปีนี้เป็นปีที่ 4 ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมด้านดิจิทัลของคนกลุ่มนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าถ้าเทียบกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี หรือกลุ่ม New born internet user นั้น ตอนนี้แทบจะไม่แตกต่างเท่าไหร่ ต่างกันเพียงไลฟ์สไตล์ และวิถีชีวิต
งานวิจัยครั้งนี้ได้ใช้กลุ่มตัวอย่าง 200 คนจากทั่วประเทศ ใช้ระยะเวลา 3 เดือนในการเก็บข้อมูล วิธีการเก็บผลสำรวจมีทั้งใช้วิธีสัมภาษณ์ ใช้ชีวิตร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่ต่างจังหวัด และดูกิจกรรมของเขาในแต่ละอย่าง จนได้พฤติกรรมดิจิทัลที่น่าสนใจ 3 หัวข้อ พร้อมกับคำแนะนำของนักการตลาดจะต่อยอดในการเข้าหาคนกลุ่มนี้อย่างไร
- การใช้ชีวิต : LINE กลายเป็นช่องทางสื่อสารสำคัญ
อย่างที่กล่าวไว้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่ม New Internet User ไม่เคยใช้อินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์มาก่อน จะเห็นพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของเขาถูกให้ใช้ด้วยอาชีพการงาน ต้องบังคับตัวเองให้ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร ต้องใช้ไลน์ เฟซบุ๊ก เช่น พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของต้องใช้ LINE และเฟซบุ๊ก เพราะลูกค้าอยากได้ช่องทางในการติดต่อสื่อสารง่ายๆ แทนโทรศัพท์ ก็เป็นการบังคับให้คนกลุ่มนี้สมัคร
LINE กลายเป็นการสื่อสารที่สำคัญ หลายที่มีการสั่งงานผ่านช่องทางนี้ ตอนนี้บางองค์กรก็ถือว่า LINE ได้เป็นอีกหนึ่งการสื่อสารทีเป็นระบบช่องทางหนึ่ง จากเดิมที่มีคำสั่งผ่านแมสเซ็นเจอร์ หรือจดหมาย ก็ส่งคำสั่งผ่าน LINE แทน เป็นคำสั่งแบบ official กลายเป็นว่าคนกลุ่มนี้ถูกบังคับให้มีความเก่งในการใช้อินเทอร์เน็ตเทียบเท่ากับกลุ่มเด็กๆ แล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการที่คนกลุ่มนี้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เขาค้นพบตัวตนของตัวเองได้ว่าเขาคือใคร และชอบอะไร บางคนค้นพบว่าชอบเกาหลี เพลงเกาหลี มีความรู้สึกว่าไม่ต่างจากเด็กๆ ที่ชอบเกาหลี
พฤติกรรมคนที่ติดเล่นอินเทอร์เน็ตจะกลายเป็น All about me หรืออยู่กับตัวเองได้ตลอดเวลา ต้องเช็คโทรศัพท์ตลอด แต่ก่อนช่วงเวลาเช้ากับเย็นจะมีเวลาสำหรับครอบครัว แต่ตอนนี้ทุกคนอยู่กับมือถือ ทำให้ใช้เวลากับคนรอบข้างน้อยลง
สิ่งที่เห็นได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ วิถีชีวิตของคนกลุ่มนี้เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มีการ Collaboration เทคโนโลยีกับอาชีพ หรือชุมชนมากขึ้น เช่น มีการสร้างเฟซบุ๊กเพจในการขายข้าว หรือสินค้าในชุมชนมากขึ้น
- มีเดีย : เสพสื่อได้ทุกที่ทุกเวลา
พฤติกรรมการเสพสื่อ คนกลุ่มนี้จะมีแอพพลิเคชั่นตามกลุ่มต่างๆ เช่น ธนาคาร บันเทิง ข่าว โซเชียลมีเดีย เป็นต้น พฤติกรรมสำคัญที่พบได้จากการเสพสื่อก็คือ การที่ดูคอนเทนต์ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน YouTube หรือ LINE TV หลายคนบอกว่าไม่จำเป็นต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปดูละคร สามารถดูย้อนหลังได้ ทำให้มีเวลาทำมาหากินเพิ่มขึ้น
คนกลุ่มนี้ก็มีการเสพ Content of now หรือคอนเทนต์ที่อยู่ในกระแสด้วยเช่นกัน ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น ดูละครย้อนหลังผ่าน YouTube หรือ LINE TV ฟังเพลงผ่าน YouTube และ JOOX ซึ่งเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือเพลงคำแพง, เต่างอย และคุกกี้เสี่ยงทาย
คนกลุ่มนี้อ่านยังอ่านข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ทั้งไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด รวมถึงช่องทางอินสตาแกรม และทวิตเตอร์ด้วย ชอบอินสตราแกรมเพราะชอบรูปภาพ ส่วนทวิตเตอร์ได้อัพเดตข่าวสารรวดเร็ว แต่เขาไม่ชอบฟังวิทยุเพราะรู้สึกว่าน่าเบื่อ ไม่ชอบฟังดีเจขายของ จึงมีการโหลดแอพพลิเคชั่นของคลื่นวิทยุมาฟังออนไลน์มากกว่า
- การใช้จ่ายเงิน : ต้องสะดวกสบาย
มีทั้งเรื่องหาเงิน และใช้จ่ายเงิน หัวใจสำคัญของการใช้จ่ายเงินก็คือเรื่องของความสะดวก นิยมใช้แอพพลิเคชั่นในการทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก จองไว้ก่อนแล้วค่อยไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ ส่วนวิธีการหาเงิน มีการสร้างเพจหาลูกค้า และมีการใช้ QR Code เพื่ออำนวยความสะดวก และปลอดภัยเงินเข้ากระเป๋าแน่นอน รวมถึงตู้บุญเติมที่ได้รับความนิยมไม่น้อย มีเกือบทุกที่ในต่างจังหวัด เป็นโอกาสสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทำไรได้หลายอย่าง มีทั้งเติมเงิน และจ่ายบิล
- ข้อเสนอสำหรับนักการตลาด
การจับกลุ่มเป้าหมายในตอนนี้ไม่ได้ดูเรื่องของอายุ รายได้ หรือเพศ แต่ให้ดูว่าเขาเป็นใคร มีไลฟ์สไตล์อย่างไร จะทำให้เจาะคนกลุ่มนี้ได้ดียิ่งขึ้น และต้องมีการวางแผนดีๆ ทำการบ้านให้ดี เพราะคนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่หลากหลาย มีการใช้งานเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายจริงๆ และเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ถ้าทำให้เขาสะดวกขึ้น มีชีวิตดีขึ้น ไม่เหมือนคนรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับโซเชียลมีเดีย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา