เป็นที่ทราบกันดีว่า Bill Gates ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เขาจัดตั้งมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation เพื่อเป็นหน่วยงานและกองทุนสำหรับดำเนินกิจการด้านสังคมของเขา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Gates คือการออกหนังสือเกี่ยวกับวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเรื่อง How to Avoid a Climate Disaster
- Bill Gates ลงทุน 300 ล้าน วิจัยเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- Bill Gates อยากให้คนรวยเสียภาษีมากขึ้น เพราะระบบภาษีปัจจุบันไม่เป็นธรรม
Gates ได้แสดงความเห็นว่าอยากร่วมมือกับ Jeff Bezos ซีอีโอ Amazon เพื่อแก้ไขวิกฤติสิ่งแวดล้อม เขาให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีของ Bloomberg ว่า “วิกฤติสิ่งแวดล้อมเป็นความท้าทายของมนุษยชาติมาก เพราะในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เราต้องลงทุนล่วงหน้าไปกับการแก้ปัญหาที่อาจใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าจะเผยตัวให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นปัญหาที่กระทบมนุษย์อย่างร้ายแรง ไม่เหมือนปัญหาโรคระบาดที่เราเห็นผลของมันทันที”
งานของมหาเศรษฐีคือการลงทุนล่วงหน้าในปัญหาสิ่งแวดล้อม
Gates บอกว่า การลงทุนล่วงหน้าตรงนี้นี่แหละที่จะเป็นงานของเขาและ Bezos (รวมถึงมหาเศรษฐีคนอื่นๆ) เพราะการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นมีราคาสูง
เขาเสนอแนวคิดเรื่อง Green Premium หมายถึงส่วนต่างของราคาระหว่าง “เทคโนโลยีและพลังงานทั่วไป” กับ “เทคโนโลยีและพลังงานสะอาด” เช่น ราคาเฉลี่ยของเชื้อเพลิงเครื่องบินเจ็ท คือ 2.22 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ในขณะที่ไบโอดีเซลมีราคา 5.35 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ดังนั้นค่า Green Premium คือ 3.13 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
Gates เสนอว่า เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ๆ จะมีราคาแพงในช่วงเริ่มต้นพัฒนา มหาเศรษฐีอย่างเขาและ Bezos จะต้องช่วยอุดหนุน Green Premium เพื่อทำให้ราคาของเทคโนโลยีและพลังงานสะอาดให้ต่ำลง เพียงพอที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้ ส่วนผู้ผลิตเทคโนโลยีและพลังงานสะอาดก็จะมีผู้บริโภคเพิ่มขึ้นทำให้มีงบประมาณไปลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและราคาถูกลงในอนาคต
Bezos คือมหาเศรษฐีอีกคนที่สนใจงานเพื่อสังคม
ความร่วมมือนี้ดูจะมีความเป็นไปได้ เพราะ Jeff Bezos ก็ให้ความสนใจในงานเพื่อสังคมในระดับเดียวกับ Bill Gates และเดิมทีเขาก็ลงทุนในงานด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่า Bill Gates ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ Jeff Bezos ได้ออกมาประกาศว่าจะลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Amazon ในไตรมาส 3 ของปี 2021 และจะหันไปตั้งใจทำงานด้านอื่นมากขึ้น เช่น กองทุนด้านสิ่งแวดล้อม Bezos Earth Fund, กองทุนช่วยเหลือคนยากจน Bezos Day One Fund และบริษัทเทคโนโลยีอวกาศ Blue Origin
ที่มา – Bloomberg, Gatesnotes
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา