คุยกับผู้บริหาร Garmin Health จุดเริ่มต้นและความท้าทายของผู้เล่นที่เข้ามาทีหลัง กับจุดขายสำคัญที่แบตอึด

เมื่อนึกถึงสมาร์ทวอร์ช หลายคนที่เป็นสายออกกำลังกาย สายกิจกรรมแอดเวนเจอร์คงจะต้องนึกถึงผู้เล่นสำคัญในตลาดอย่าง Garmin ที่มีจุดแข็งอยู่ที่อายุแบตเตอรี่ที่อยู่ได้หลายวันหรือเป็นหลักหลายสัปดาห์ด้วยซ้ำ

Garmin Health เป็นธุรกิจโซลูชั่นทางด้านสุขภาพของ Garmin ที่มีจุดเริ่มต้นขึ้นมาในปี 2014 ซึ่งนับว่าเพิ่งเข้าสู่การเป็นผู้เล่นในตลาดได้ไม่นานนักเมื่อเทียบกับผู้เล่นรายอื่น 

Brand Inside ได้พูดคุยกับยอร์น วัสกี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ B2B ของ Garmin Health ที่เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้น กลยุทธ์ และความท้าทายของธุรกิจด้านสุขภาพนี้ว่า Garmin ทำอย่างไรบ้างเมื่อเข้าสู่ตลาดสุขภาพทีหลังคนอื่น

จุดเริ่มต้น Garmin Health

ยอร์น วัสกี เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่า ทุกบริษัทย่อมมีจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ สำหรับ Garmin ได้เริ่มต้นที่การพัฒนาสมาร์ทวอร์ชเพื่อการวิ่งและฟิตเนส 

“ที่จริงแล้วเราอยากตอบสนองความต้องการของทุกคน เลยเป็นเหตุผลที่เราพัฒนานาฬิกาขึ้นมาหลายรุ่น อย่างเช่น นาฬิกาสำหรับผู้หญิง นาฬิกาสำหรับคนทั่วไป สำหรับทุกคน หรือนาฬิกาสำหรับคนที่ตื่นเต้นกับสินค้าหรู”

อีกอย่างหนึ่งก็คือ ในตอนแรกเริ่มต้นของ Garmin Health ในปี 2014 ทุกอย่างเป็นเรื่องของการนับจำนวนก้าวและการดูแลสุขภาพภายในองค์กร (Corporate Wellness) ทำให้เกิดความตระหนักเรื่องการเดินของผู้คนว่าควรจะเดินให้ได้ 10,000 ก้าว แต่ในปัจจุบัน เป็นมากกว่าการนับจำนวนก้าวแต่รวมไปถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทั้งหมด ทั้งความเครียด การนอน สารอาหาร กิจวัตรประจำวันทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ Garmin ต้องการดูแล เช่น ถ้าผู้ใช้รู้สึกว่าตัวเองนอนหลับได้ไม่ดีจะได้เริ่มจัดการกับปัญหาเรื่องการนอนได้

ในตลาดที่มีผู้เล่นหลายราย Garmin มีกลยุทธ์สร้างความโดดเด่นยังไงบ้าง

ยอร์น วัสกี มองตลาดโซลูชั่นด้านสุขภาพไว้ว่า “ผมคิดว่าเรามีคู่แข่งหลายรายและนั่นเป็นเรื่องที่ดี เพราะคู่แข่งของเราสามารถสื่อสารกับตลาดและพัฒนาตลาดได้ซึ่งเป็นเรื่องที่เราชื่อชม”

Garmin มีกลยุทธ์แตกต่างผู้เล่นสมาร์ทวอร์ชเจ้าอื่นตรงที่มองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้ ขณะที่คู่แข่งรายอื่นมุ่งมั่นที่จะขายสมาร์ทวอร์ชเพียงรุ่นเดียว  ยอร์น วัสกี ยกตัวอย่างสมาร์ทวอร์ชของตัวเองว่าเขารู้สึกชอบนาฬิกาของเขา แต่คนอื่นก็อาจจะมองว่ามันใหญ่เกินไป อย่างภรรยาของเขาก็มีนาฬิกา 2-3 เรือนที่เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน

นอกจากนี้ กลยุทธ์สำคัญของ Garmin Health ยังอยู่ที่อายุแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่จำเป็นต้องชาร์จทุกคืน ทำให้สามารถสวมใส่และเก็บข้อมูลสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นจุดขายอีกเรื่องหนึ่งที่ Garmin แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่น

“ดังนั้นกลยุทธ์ของเราก็อยู่ที่ฟีเจอร์หลักและการสร้างนาฬิกาที่ปรับให้เข้ากับทุกคนเข้าสู่ตลาด และให้ตอบสนองความต้องการผู้ใช้ด้วยสิ่งที่ใช่สำหรับพวกเขา” 

Garmin ให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูล แล้วข้อมูลช่วยยกระดับธุรกิจยังไง

ยอร์น วัสกี มองว่า ข้อมูลคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง เป็นสิ่งที่ทำให้สามารถพัฒนาฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น BBI ที่เป็นมาตรวัดระยะเวลาระหว่างการเต้นของหัวใจแต่ละครั้งที่เป็นพื้นฐานของหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับความเครียด Garmin เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ลงทุนอย่างมากในทางวิศวกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลและการตรวจจับข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังมีพาร์ทเนอร์ที่แชร์ข้อมูลกันเพื่อนำไปสร้างโซลูชั่นด้านสุขภาพต่อ 

“เพราะฉะนั้นความหลากหลายในการใช้ข้อมูลทำให้เกิดการวิเคราะห์ข้อมูล 2 ทาง คือพาร์ทเนอร์ที่ได้รับข้อมูลดิบและนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อเอง และเราก็มีพาร์ทเนอร์ที่นำการวิเคราะห์ข้อมูลของเราไปใช้ผ่านนาฬิกาที่มีอายุแบตยาวที่มีฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูลจากข้อมูลดิบแล้ว”

แผนในอนาคตของ Garmin มีอะไรบ้าง

ยอร์น วัสกี เล่าให้ฟังว่า ตำแหน่งในตลาดของ Garmin ในแต่ละประเทศแตกต่างกันไป แต่เป้าหมายหลักไม่ว่าที่ไหนอยู่ที่การรักษาอันดับให้อยู่ในอันดับ 1-3 เพราะจะได้เป็นผู้พัฒนาตลาดไปได้ในหลายตลาดทั้งอุปกรณ์เพื่อกิจกรรมแอดเวนเจอร์ การออกกำลังกาย ไปจนถึงอุปกรณ์เพื่อกิจกรรมทางทะเล 

“เรารู้ว่าในบางตลาด เราเข้ามาเป็นผู้เข้าแข่งขันได้ไม่นาน แต่สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือการพัฒนาจุดแข็งและรับฟังว่าอะไรเป็นประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ อะไรที่สร้างการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ การสร้างสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้” 

ความท้าทายของ Garmin อยู่ตรงไหน

ความท้าทายของ Garmin อยู่ตรงที่ว่าจะทำอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับเมื่อมีสินค้าจากผู้แข่งขันรายอื่นอยู่ในตลาด รวมทั้งมีคนคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง 

ยอร์น วัสกี ยกอย่างบริการการแพทย์ทางไกลหรือ Telemedicine ที่มีผู้ให้บริการหลายแห่งอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ Garmin ทำเพิ่ม คือการสร้างความร่วมมือกับแพทย์ที่ต้องการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจว่ามีบริการอะไรที่พร้อมให้ใช้งานแล้วบ้าง แล้วทาง Garmin จะสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้อีกในธุรกิจนี้

มีข้อกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวข้อมูลไหมและจัดการยังไง

“แน่นอนว่าเรามีความกังวลและควรจะกังวลด้วยเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ทุกคนก็ควรมีความกังวลเช่นเดียวกัน” 

Garmin เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่ระมัดระวังเรื่องกฎหมาย GDPR ในยุโรปซึ่งเป็นกฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเช่นเดียวกับบริษัทรายใหญ่หลายแห่งและลงทุนอย่างมากในเรื่องนี้

ยอร์น วัสดี มองว่า แม้กฎหมาย GDPR จะเป็นภาระของบริษัทแต่ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ด้วยเหมือนกัน เพราะความเป็นส่วนตัวของข้อมูลนำมาซึ่งความไว้วางใจของผู้ใช้ สำหรับ Garmin ไม่ได้มองว่าข้อมูลเป็นของบริษัทแต่มองว่าข้อมูลเป็นของผู้ใช้และบริษัทเพียงแค่ช่วยเก็บข้อมูลแทนผู้ใช้

ส่วนเรื่องการส่งต่อข้อมูลให้พาร์ทเนอร์ ยอร์น วัสกี กล่าวว่า “เราไม่เคยนำข้อมูลของผู้ใช้ให้กับพาร์ทเนอร์ แต่พาร์ทเนอร์ที่จะนำข้อมูลไปใช้ต้องขอความยิมยอมจากผู้ใช้เอง และถ้าผู้ใช้เห็นว่าการแชร์ข้อมูลจะเป็นประโยชน์ก็เป็นการตัดสินใจของผู้ใช้”

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา