เป็นคำถามยอดนิยมในยุคนี้ของนักลงทุนและนักวิเคราะห์กับธนาคารในประเทศไทยทุกรายว่า เมื่อรายได้จากค่าธรรมเนียมกำลังลดลง และหดหายไปเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่งอาจจะ “ไม่เหลือ” ค่าธรรมเนียมในบริการพื้นฐานต่างๆ อีกเลย
ธนาคารจะทำอย่างไร?
ปีที่ผ่านมาจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการของธนาคารพาณิชย์ไทย ปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 196,000 ล้านบาท จากธนาคาร 30 แห่ง ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลามากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา โดย ธปท. ได้กำหนดประเภทของค่าธรรมเนียมและบริการไว้ 12 ประเภท
- การรับรอง รับอาวัล และค้ำประกัน
- บัตรเครดิต
- บริการบัตร ATM บัตรเดบิต และบริการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
- บริการโอนเงินและเรียกเก็บเงิน
- บริการที่ปรึกษา
- ค่าธรรมเนียมจัดการ
- การจัดการออก การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการค้าตราสารแห่งหนี้
- การดูแลและเก็บรักษาหลักทรัพย์ของลูกค้า
- ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับเช็ค
- ค่าธรรมเนียมการออกเล็ตเตอร์ออฟเครคิต
- ค่านายหน้า
- ค่าธรรมเนียมและบริการอื่น ๆ
การยกเลิกค่าธรรมเนียมบริการ 4-5 ประเภท ถือว่ายังเป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ธนาคารยังเก็บจากผู้ใช้ เช่น บัตรเครดิต, บัตร ATM ดังนั้นจากตัวเลข 196,000 ล้านบาท จะลดลงไปไม่มากนัก
อีกปัจจัยหนึ่งคือเมื่อปีที่ผ่านมาเริ่มมีบริการ พร้อมเพย์ (PromptPay) เกิดขึ้น และประชาชนเริ่มใช้บริการ แม้จะยังเป็นส่วนน้อยแต่ก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และน่าจะเป็นสัญญาณสำคัญที่บอกให้ธนาคารรู้ว่า รายได้จากค่าธรรมเนียมกำลังจะลดลงอยู่แล้ว ดังนั้นชิงยกเลิกค่าธรรมเนียมในบางบริการที่เหมือนพร้อมเพย์ไปเลย ก็ไม่ได้เสียหาย และอาจได้ประโยชน์จากจำนวนผู้ใช้มากกว่าด้วย
เมื่อค่าธรรมเนียมกำลังหายไป งั้นเลิกคิด (บางบริการ) เลยแล้วกัน
ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ได้ประกาศเลิกเก็บค่าธรรมเนียมบริการตั้งแต่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ใน 4 บริการ ผ่าน Easy Net และ Easy App ฟรีค่าธรรมเนียมแบบไม่มีเงื่อนไข ได้แก่
- โอนข้ามเขต ข้ามธนาคาร ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- จ่ายบิล สินค้าและบริการ
- เติมเงินมือถือ ทุกค่าย
- กดเงินไม่ใช้บัตรทั่วไทย (แปลว่าต้องมี แอพ SCB EASY เพื่อกดเงินจากตู้ ATM แบบไม่เสียค่าธรรมเนียม)
![พัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/03/kbank-fee-free.jpg)
ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank ก็ประกาศตามมาติดๆ ฟรีค่าธรรมเนียมผ่าน K PLUS, K PLUS SME, K-Cyber, K-Cyber SME ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมจนถึงสิ้นปีนี้ ในบริการดังนี้
- โอนข้ามเขต/โอนต่างธนาคารแบบทันที ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- จ่ายบิลค่าสินค้าและบริการ
- เติมเงินมือถือ
ธนาคารมีต้นทุนการบริหารจัดการเงินสดที่ลดลงในระยะยาว ช่วยลดต้นทุนให้ระบบเศรษฐกิจ ทั้งระดับส่วนรวม ร้านค้า และลูกค้าที่ใช้บริการ โดยคาดว่าการงดค่าธรรมเนียมนี้จะทำให้ปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านรายการภายในกลางปีนี้
ล่าสุดในวันที่ 28 มีนาคม 2561 ธนาคารอีกสองรายคือ ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารกรุงเทพ ก็ทยอยประกาศฟรีค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมดิจิทัลในลักษณะเดียวกัน
- กรุงไทยมาแล้ว ประกาศฟรีค่าธรรมเนียม KTB Netbank ด้วย เริ่ม 29 มีนาคมนี้
- มาอีกราย ธนาคารกรุงเทพประกาศฟรีค่าธรรมเนียมโอนเงินดิจิทัล มีผล 1 เมษายน
ไม่มีรายได้จากค่าธรรมเนียม ธนาคารจะทำอย่างไร
ค่าธรรมเนียมเป็นรายได้หลักส่วนหนึ่งของธนาคาร และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในอนาคต อาทิตย์ นันทวิทยา CEO ของ SCB เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า SCB ไม่ได้กังวลเรื่องรายได้จากค่าธรรมเนียมลดลง แต่ SCB จะเน้นสร้างรายได้จากบริการอื่นๆ เช่น การลงทุน, ค่าธรรมเนียมการลงทุน, ดอกเบี้ย และบริการทางการเงินอื่นๆ
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/01/5_2020-SCB-Vision-.jpg)
สอดคล้องกับท่าทีของธนาคารกสิกรไทย ที่ประกาศวิสัยทัศน์ KADE ใช้ระบบ AI ช่วยผลักดันบริการใหม่ๆ แห่งอนาคต เช่น machine lending การให้กู้ขนาดเล็กเฉพาะบุคคลผ่านแอพ และ machine commerce การขายสินค้าผ่านแอพธนาคาร ที่กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบใน sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/03/1303-2018-124556314331969339.jpeg)
ในงานแถลงข่าวของธนาคารไทยพาณิชย์ นายธนา เธียรอัจฉริยะ CMO ของ SCB ตอบคำถามนี้ว่า ธนาคารคิดแบบเดียวกับบริษัทไอทีที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ว่ามุ่งเป้าสร้างฐานผู้ใช้จำนวนมากๆ ก่อนโดยไม่ต้องสนใจโมเดลธุรกิจ ถ้าหากสามารถสร้างโมเมนตัม มีฐานผู้ใช้จำนวนเยอะพอแล้ว วิธีหาเงินจะตามมาเอง
ธนา ระบุว่าภาพจำของธนาคารไทยในหมู่ผู้บริโภคคือ “งก ช้า ห่วย” ซึ่งเป้าหมายของ SCB ต้องการเปลี่ยนให้เป็น Better, Faster, Cheaper โดยสองข้อแรก (Better / Faster) สามารถแก้ได้ผ่านแอพ SCB Easy เวอร์ชันใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดนใจผู้บริโภคมากขึ้น ส่วน “Cheaper” ก็แก้โดยยกเลิกค่าธรรมเนียมทั้งหมด
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/03/งกช้าห่วย.jpg)
ปัจจุบัน SCB Easy มีผู้ใช้งาน 6.5 ล้านคน ส่วน K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย มีผู้ใช้งาน 8 ล้านคน ถือเป็นสองหัวหอกสำคัญของธนาคารดิจิทัลไทย ที่เร่งกวาดยอดผู้ใช้งาน และสร้างสายสัมพันธ์ของผู้ใช้กับธนาคาร เพื่อป้องกันผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ที่เป็นกลุ่ม non-bank
ลดค่าใช้จ่ายจากเงินสด อีกประเด็นสำคัญของ Digital Banking
นอกเหนือจากการสร้างรายได้ส่วนอื่นขึ้นทดแทน ส่วนที่สำคัญอีกประการคือ การลดค่าใช้จ่าย
- ลดต้นทุนการจัดการเงินสด – บริการที่ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียม คือ โอน, จ่ายบิล และเติมเงิน ถ้าไม่นับกดเงินสดไม่ใช้บัตร เป็นบริการดิจิทัลที่ลดต้นทุนการจัดการเงินสด ซึ่งมีการคาดว่าอยู่ที่ 2% ของปริมาณเงินสดที่มีการเคลื่อนไหว เท่ากับว่าเงินสดจะลดการเคลื่อนที่แต่ธุรกรรมยังเกิดขึ้น
- ถ้าจำนวนธุรกรรมดิจิทัลเพิ่มขึ้น มีโอกาสลดจำนวนตู้ ATM ในอนาคต ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล
- การเปลี่ยนสาขาธนาคาร ให้เป็นศูนย์บริการ คาดกันว่า ธนาคารจะไม่ลดจำนวนสาขา (ยกเว้นจุดที่ซ้ำซ้อน) เปลี่ยนเป็นจุดให้บริการแบบอัตโนมัติ และศูนย์บริการ ด้านการลงทุน, บริการธุรกิจ, บริการทางการเงิน เป็นต้น ซึ่งเป็นบริการที่ยังเก็บค่าธรรมเนียมได้
ก่อนหน้านี้ TMB ก็เคยทำบัญชี TMB All Free ใช้ ATM กดเงิน โอนต่างธนาคาร และจ่ายบิล ฟรีค่าธรรมเนียมไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทุกตู้ ATM ของทุกธนาคารทั่วประเทศ โดยเป็นบริการผ่านทั้ง ATM และช่องทางดิจิทัล
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/02/banking-7774.jpg)
สรุป
การก้าวเข้ามาให้บริการ Mobile Banking หรือ Digital Banking เพิ่มจำนวนร้านค้าและผู้ใช้ทั่วไป ไม่ใช่เพื่อให้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมมากขึ้น แต่เพื่อเป็นช่องทางให้ธนาคารเข้าถึงผู้ใช้ และมีโอกาสนำเสนอบริการทางการเงิน
ธนาคารรู้อยู่แล้วว่า ค่าธรรมเนียมกำลังลดลงและหลายส่วนจะหมดไป เป็นส่วนประกอบ New Normal ที่เกิดขึ้นจากการ Disrupt ของเทคโนโลยีและ FinTech เมื่อมองในมุมกลับ ชิงประกาศเลิกเก็บค่าธรรมเนียม สร้างฐานลูกค้า ลดต้นทุนการจัดการเงินสด และเตรียมบุกธุรกิจบริการใหม่ๆ น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
source: ธปท.
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา