นมพร้อมดื่มเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคชาวไทยยังเชื่อว่ายี่ห้อไหนก็เหมือนๆ กัน ทำให้ทุกแบรนด์แข่งอย่างดุเดือด จนเหลือผู้เล่นหลักเพียงไม่กี่ราย ซึ่ง Foremost คือหนึ่งในนั้น และพยามหาสินค้า Functional มาหนีการแข่งขันไปให้ได้
ไม่ใช่วัฒนธรรม และมุมมองผู้บริโภคเปลี่ยน
การดื่มนมในประเทศไทยนั้นไม่ใช่วัฒนธรรมดั้งเดิม แม้หลายสิบปีก่อนผู้บริโภคจะเริ่มเข้าใจว่าประโยชน์ของการดื่มนมคืออะไร แต่ปัจจุบันมีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากมายให้เลือกซื้อ ทำให้ตลาดนมพร้อมดื่มนั้นอยู่ได้ยากขึ้น ผ่านทั้งการสร้างสรรค์แผนการตลาดใหม่ๆ เพื่อจูงใจ รวมถึงการขับเขี้ยวระหว่างคู่แข่งด้วยกันที่เหลือหลักๆ เพียงไม่กี่ราย
วิภาส ปวโรจน์กิจ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) เจ้าของแบรนด์ Foremost เล่าให้ฟังว่า การแข่งขันของสินค้านมพร้อมดื่มนั้นดุเดือดอย่างต่อเนื่อง ผ่านทั้งบริษัทเอง และผู้เล่นอีก 4-5 เจ้าที่กินส่วนแบ่งตลาดนมพร้อมดื่ม 61,000 ล้านบาทในปีนี้ไปแล้ว 80% เพราะทุกรายต้องการฟื้นตลาดนี้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
“ความจริงคือตลาดนี้เติบโตน้อยมาก เพราะทั้งนมยูเอสที, พาสเจอร์ไรซ์ และอื่นๆ ต่างไม่เติบโต โดยเหลือเพียงนมน้ำสำหรับเด็กเท่านั้นที่ยังไปได้อยู่ ทำให้ตลาดนี้สำคัญมาก และเริ่มแสดงให้เห็นว่าการพัฒนานมพร้อมดื่มให้เป็นคล้ายๆ Functional Drink ก็น่าจะสร้างความแตกต่างกับนมเดิมๆ และเพิ่มโอกาสการเติบโตของยอดขายได้”
นมสำหรับเด็ก กับอนาคตของ Foremost
เหตุที่นมพร้อมดื่มสำหรับเด็กเติบโตได้ ก็เพราะการให้ข้อมูลกับผู้บริโภคโดยผู้เล่นรายหนึ่งเมื่อสิบปีก่อน ทำให้มีคนรู้จักประโยชน์ของนมประเภทนี้มากขึ้น ประกอบกับทิศทางการเลี้ยงบุตรในแต่ละครัวเรือนก็เปลี่ยนไป หยุดนมผงเร็วขึ้น จนประโยชน์ก็กลับมาตกอยู่ที่นมพร้อมดื่มสำหรับเด็กที่มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างพัฒนาการเช่นกัน
ซึ่ง Foremost เองก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดไป เพราะเตรียมทุ่มงบการตลาดราว 100 ล้านบาทในช่วงไตรมาสสุดท้าย เพื่อสื่อสารข้อมูลของ Foremost Omega ให้มียอดขายเติบโตล้อไปกับตลาดได้ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนานมพร้อมดื่มที่มี Functional มากขึ้น เช่นนมสำหรับผู้สูงอายุ หรือนมสำหรับนักกีฬา เพื่อรับกับตลาดใหม่ๆ
ฉีกมากก็ไม่ได้ เพราะกลุ่มหลักคือ Mass
อย่างไรก็ตามตัวบริษัทยังให้ความสำคัญกับนมพร้อมดื่มแบบปกติ โดยเฉพาะนมกล่อง UHT อยู่ เพราะสินค้าตัวนี้คิดเป็นสัดส่วนรายได้ถึง 40% เหนือนมสำหรับเด็ก กับนมข้นจืดข้นหวาน (แบรนด์ฟอลคอน) ทีกินสัดส่วนอย่างละ 20% แต่ทั้งหมดนี้ก็มีแนวคิดปรับ Packaging เพื่อสร้างความแตกต่าง และจูงใจให้ผู้บริโภคเลือกซื้อมากขึ้นด้วย
สรุป
เมื่อเด็กเกิดใหม่ปีละ 8 แสนคน และยังทยอยลดลงเรื่อยๆ ทำให้ผู้ปกครองต่างยอมทุ่มสิ่งที่ดีที่สุดกับบุตร จึงไม่แปลกที่นมสำหรับเด็กจะเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานี้ และยิ่งภาพรวมตลาดนมพร้อมดื่มนั้นโตช้าเอามากๆ เชื่อว่าหลายๆ แบรนด์จะเข้ามารุกตลาด และอาจเกิดการแข่งขันในแง่ของราคาขึ้นบ้างก็ได้
สำหรับ Foremost ในประเทศไทยนั้นซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรไทยจำนวนมาก เพื่อส่งขายใน และต่างประเทศ โดยในประเทศนั้นจะเน้นทำตลาดกับค้าปลีกแบ่งเป็น Modern Trade กับ General Trade อย่างละครึ่ง ส่วนฝั่ง B2B จะค่อนข้างน้อย ส่วนฝั่ง B2B จะไม่ได้เน้นทำตลาดมากนัก และระหว่างปี 2561-2563 ก็เตรียมลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิต และการดำเนินงาน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา