เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยทีเดียวที่กิจการต่างๆ ในประเทศจีนกู้ยืมเงินจากต่างประเทศสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ อะไรคือสาเหตุของการกู้ยืมที่สูงขึ้นเหล่านี้ และรวมไปถึงทำไมธนาคารต่างประเทศถึงยอมปล่อยกู้ถึงขนาดนี้ Brand Inside จะพาไปหาคำตอบ
โดยยอดรวมในการกู้ยืมเงินของจีนที่กู้ธนาคารต่างประเทศนี้ถือว่าทำสถิติใหม่เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะ 6 เดือนแรกของปีนี้ มากกว่ายอดปี 2014 รวมกันด้วยซ้ำ แต่ยอดการที่ปล่อยกู้สูงขนาดนี้ย่อมมีความเสี่ยงที่ตามมาด้วย
ทางการจีนต้องการลดการก่อหนี้ทางเศรษฐกิจของจีน ผลกระทบเลยตามมา
แผนการควบคุมหนี้และความร้อนแรงทางเศรษฐกิจโดยรัฐบาลจีน โดยการควบคุมสินเชื่อภายในประเทศนั้น ก่อให้เกิดผลกระทบกับธุรกิจเอกชนของจีนที่ต้องการสินเชื่ออย่างหนัก แถมซ้ำร้ายธนาคารกลางจีนยังขึ้นดอกเบี้ยเพิ่ม การกู้เงินจากธนาคารต่างประเทศจึงจึงเป็นทางออกที่ดีของเอกชนของจีนในการกู้ยืมเงิน ถึงแม้ว่าดอกเบี้ยนั้นจะสูงกว่าธนาคารในประเทศจีนก็ตาม
ค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้น อีกหนึ่งสาเหตุที่เอกชนกู้เงินจากธนาคารต่างประเทศ
ค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นมานั้น ทำให้เอกชนจีนมองว่าการกู้เงินจากธนาคารต่างประเทศในสกุลอื่นอาจเป็นผลดีกว่า และรวมไปถึงตลาดตราสารหนี้เอกชนของจีนด้วย โดยเฉพาะการออกหุ้นกู้เอกชนในสกุลเงินอื่นๆ เช่นดอลล่าร์สหรัฐ โดยเฉพาะปีนี้นั้นการออกหุ้นกู้โดยเอกชนจีนในรูปแบบสกุลเงินอื่นๆ ถือว่าสูงมาก นอกจากนี้ธนาคารยักษ์ใหญ่ที่พึ่งวางแผนจะเข้าสู่เอเชียมากขึ้นอย่าง HSBC ก็พึ่งเปิดสาขาในประเทศจีนเพิ่มเติมที่มณฑลกวางตุ้ง เพื่อตอบสนองยอดการกู้เงินของเอกชนจีนที่มากขึ้นด้วย
ธนาคารในฮ่องกงคือผู้ปล่อยกู้หลักให้แก่ธุรกิจจีน
ยอดรวมการปล่อยกู้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ธนาคารเอกชนหลายแห่งในฮ่องกงปล่อยกู้เงินเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 1.89 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยยอดรวมนี้มากกว่าในปี 2014 รวมกันทั้งปีด้วยซ้ำ โดยธนาคารที่ปล่อยกู้ให้แก่เอกชนจีนนั้นนำมาโดย HSBC โดยปล่อยกู้ถึง 1.5 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งยอดรวมของ 4 ธนาคารได้แก่ Standard Chartered, DBS, OCBC, Bank Of East Asia ซึ่งมีอันดับ 2-5 นำมารวมกันไม่ถึงด้วยซ้ำ ซึ่ง Margin ของธนาคารเหล่านี้เวลาปล่อยกู้เข้าไปในประเทศจีนนั้นถือว่าดีมาก
ความเสี่ยงของธนาคารในฮ่องกงก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
“การขยายการปล่อยเงินกู้เข้าไปในประเทศจีนนั้นจะช่วยให้ Margin ของธนาคารในฮ่องกงดูดีมากขึ้น แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นถ้าธนาคารเองไม่ควบคุมให้เหมาะสม” นี่เป็นคำกล่าวของ Sabine Bauer หัวหน้าอาวุโสฝ่ายสถาบันการเงินของ Fitch Ratings ในฮ่องกงได้กล่าวไว้ สำหรับธนาคารในฮ่องกงที่กำลังขยายการกู้ยืมเงินเข้าไปในประเทศจีนมากขึ้น โดยเฉพาะสองธนาคารอย่าง HSBC และ Standard Chartered ที่พยายามเข้าไปในประเทศจีนมากขึ้น
ที่มา – Financial Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา