Ford กำลังลดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป โดยให้เหตุผลว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเผชิญกับ “สภาวะตลาดที่ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว” แม้ Ford เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วน Ford Explorer Electric ในเดือนมีนาคม 2023 และเริ่มการผลิตในเดือนมิถุนายน และ Ford Capri ที่เริ่มสายการผลิตในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
เหตุผลหลักมาจากยอดขายในตลาดยุโรปยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ส่งผลให้ Ford ต้องปรับลดการผลิตรถทั้งสองรุ่นนี้ลงในโรงงานที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ซึ่ง Ford ลงทุนไปถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 70,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
รถไฟฟ้าขายไม่ดี เครื่องสันดาปก็ไม่มีสินค้า
Motor 1 รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลสื่อเยอรมัน Kölner Stadt-Anzeiger ระบุว่า Ford ได้แจ้งให้พนักงานสลับการทำงานหนึ่งสัปดาห์ และหยุดหนึ่งสัปดาห์จนถึงช่วงวันหยุดคริสต์มาส ซึ่งถือเป็นการกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงานในโคโลญจน์อย่างหนัก การปรับลดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจาก Ford เลิกผลิตรถรุ่น Fiesta ที่เป็นที่นิยมในเดือนกรกฎาคม 2023 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่ Ford เผชิญในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ Ford ยังขาดกลุ่มรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ในยุโรป เพราะเลิกผลิตรถรุ่น Mondeo ในสเปนในปี 2022 และประกาศแผนการเลิกผลิตรุ่น Focus ในปี 2025 ที่โรงงานซาร์ลุยส์ เยอรมนี จนทำให้มีส่วนแบ่งในตลาดลดลง โดยข้อมูลจาก European Automobile Manufacturers’ Association (ACEA) เผยว่า Ford มียอดขายรถยนต์นั่งในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และประเทศสมาชิก EFTA ลดลง 18% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นเพียง 326,975 คัน และมีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 4.1% เหลือเพียง 3.3%
การลดการผลิตในยุโรปยังส่งผลกระทบไปยังการผลิตรถรุ่น F-150 Lightning ที่โรงงานในเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน โดย Ford มีแผนหยุดการผลิตรุ่นนี้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน ถึง 6 มกราคม 2025 เนื่องจากความต้องการที่ลดลง การหยุดการผลิตครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองในปีนี้ หลังจากมีปัญหาด้านคุณภาพที่ Ford จำเป็นต้องหยุดผลิตเพื่อแก้ไขเป็นเวลาถึงเก้าสัปดาห์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
Brand Inside มองว่า สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ Ford ต้องเผชิญในการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าในตลาดยุโรป และผลกระทบจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ขณะที่กำลังเผชิญกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและการแข่งขันที่เข้มข้นในอุตสาหกรรม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา