ก่อนหน้านี้การใช้งานระบบบัญชีผ่านออนไลน์ยังไม่ได้รับความนิยมนัก แต่เมื่อ COVID-19 ทำให้หลายองค์กรต้องทำงานที่บ้าน ระบบดังกล่าวจึงมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ FlowAccount ที่ให้บริการแบบนี้ก็เติบโตเช่นกัน
เติบโตสวนทางหลายธุรกิจ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เมื่อแทบจะทุกธุรกิจต้องหันมาทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home การใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์น่าจะเป็นสิ่งที่องค์กรต้องปรับตัวที่สุด เพราะโปรแกรมบัญชีส่วนใหญ่มักติดอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ และไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลใดๆ ได้ หากผู้ใช้งานไม่ได้อยู่หน้าเครื่องดังกล่าว
กฤษฎา ชุตินธร ผู้ร่วมก่อตั้ง FlowAccount เล่าให้ฟังว่า ในช่วง COVID-19 บริษัทค่อนข้างเติบโตได้ดี เพราะทุกองค์กรต้องปรับตัว ทำให้เกิดลูกค้าใหม่ขึ้นมาจำนวนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรไม่ใช่ธุรกิจทั้งหมดที่ยังดำเนินได้ในช่วง COVID-19 ทำให้บริษัทต้องมีสูญเสียลูกค้าเช่นกัน
“บางอุตสาหกรรมที่กระทบตรงๆ เช่นบริษัทท่องเที่ยว ร้านอาหารผับ-บาร์ กลุ่มธุรกิจเหล่านี้เคยเป็นลูกค้าของเรา แต่สุดท้ายก็ไม่ต่ออายุระบบ ซึ่งเราพยายามช่วยเหลือพวกเขาผ่านการต่ออายุให้ใช้งานไปก่อน ในทางกลับกันการเกิดขึ้นของ Work From Home ที่เป็น New Normal ก็ทำให้ระบบบัญชีออนไลน์เป็นเรื่องที่ทุกองค์กรขาดไม่ได้”
ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่สำนักงานบัญชีก็ใช้
ขณะเดียวกันไม่ใช่แค่ธุรกิจทั่วไปที่หันมาใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์ เพราะสำนักงานบัญชีเริ่มเข้ามาใช้งานมากขึ้น ผ่านความสะดวกที่มากกว่า, มีต้นทุนต่ำลง และเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานบัญชีกว่า 100 รายเข้ามาใช้โปรแกรมบัญชีของ FlowAccount
“เมื่อทุกอย่างอยู่บนออนไลน์ การทำงานก็ไม่สะดุด คล้ายกับร้านอาหารที่ต้องเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อขายอาหารในช่วงนี้ได้ ประกอบกับ FlowAccount ทำให้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูก ทำให้ลูกค้าใหม่ที่ไหลเข้ามาตัดสินใจสมัครใช้งานได้อย่างรวดเร็ว”
ปัจจุบัน FlowAccount ให้บริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่รองรับการเปิดบิล, บันทึกค่าใช้จ่าย, จัดการภาษี และบัญชีตั้งแต่ฟรี จนถึงเสียค่าสมาชิก 459 บาท/เดือน พร้อมกับเปิดบริการใหม่ FlowPayroll โปรแกรมเงินเดือนที่เชื่อมต่อกับธนาคาร ทำให้การเตรียมจ่ายเงินเดือนง่าย และทำจากที่ใดก็ได้
เจาะแค่องค์กรขนาดเล็กก่อน
“ด้วยความง่าย และค่าใช้จ่ายไม่สูง FlowAccount จึงเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นองค์กรขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 100 คน ซึ่งทำอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้วที่เริ่มก่อตั้ง ที่สำคัญองค์กรขนาดเล็กยังไม่ค่อยมีทีมบัญชีเป็นของตัวเอง ดังนั้นการที่เราเข้าไปช่วยพวกเขาเรื่องนี้ได้ น่าจะเป็นประโยชน์ทั้งลูกค้า และตัวเราเอง”
สำหรับยอดลูกค้าของ FlowAccount ปัจจุบันมีอยู่ราว 40,000 องค์กร และในจำนวนนี้เกือบทั้งหมดเป็นลูกค้าแบบเสียเงินค่าสมาชิก โดยตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถระบุชัดเจนได้ และเมื่อลูกค้าส่วนใหญ่เป็นองค์กรขนาดเล็ก บริษัทจึงสร้างบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านี้โดยเฉพาะ
เช่นการเป็นตัวกลางให้บริการสินเชื่อเพื่อขยายธุรกิจ แบบไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดย FlowAccount ได้ร่วมมือกับ Grab Finance และ Investree เพื่อหากผู้ใช้งาน FlowAccount สนใจสินเชื่อ ก็สามารถเปิดให้สององค์กรข้างต้นเข้าถึงข้อมูล และสามารถอนุมัติสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว
การแข่งขันโปรแกรมบัญชีออนไลน์เดือด
ด้านการแข่งขันของผู้ให้บริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ปัจจุบัน FlowAccount เป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่งของประเทศไทยในแง่จำนวนผู้ใช้งาน แต่ด้วยความต้องการใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์มีมากขึ้น ทำให้เกิดผู้เล่นหน้าใหม่ ทั้งกลุ่มทำโปรแกรมบัญชีแบบออฟไลน์อยู่แล้วหันมาทำออนไลน์ และผู้เล่นจากต่างประเทศเริ่มเข้ามา
“โปรแกรมบัญชีแบบดั้งเดิมมีเป็น 100 เจ้า แต่ที่ทำเป็นรูปแบบสมัครสมาชิกใช้งานออนไลน์ยังมีไม่เยอะ ซึ่ง FlowAccount คาดว่า หลังจากนี้มันจะมีมากขึ้นแน่ๆ ทำให้เราต้องสร้างความแตกต่าง แต่ยังคงจุดเด่นเรื่องการใช้งานง่าย และมีค่าใช้จ่ายที่ประหยัดเอาไว้”
ทั้งนี้ FlowAccount ยังเน้นทำตลาดในประเทศไทย ไม่มีแผนไปทำตลาดในต่างประเทศ เนื่องจากเชี่ยวชาญในตลาดนี้มากที่สุด และยังมีแผนระดมทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาพัฒนาบริการใหม่ๆ ส่วนพนักงานในบริษัทตอนนี้มีอยู่ทั้งหมด 50 คน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา