Flash Express ปิดศูนย์กระจายสินค้า 3 วัน กระทบแม่ค้า สบช่องคู่แข่งซื้อใจผู้ใช้บริการ

Flash Express ประกาศปิดศูนย์กระจายสินค้าสาขาวังน้อยเป็นเวลา 3 วัน เพราะมีพนักงานติดโรค COVID-19 เหตุการณ์นี้สร้างผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อย่างไร และคู่แข่งมีความเคลื่อนไหวแบบไหน ลองมาติดตามกัน

flash express

Flash Express กับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

เพิ่งประกาศเป็น Unicorn ตัวแรกของไทยไปหมาด ๆ สำหรับ Flash Express แต่เพียงเวลาไม่นานก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เพราะพนักงานในศูนย์กระจายสินค้าสาขาวังน้อยติดโรค COVID-19 และทางการของจังหวัดมีมติให้บริษัทที่มีความเสี่ยงต้องปิดให้บริการทันที ทำให้ Flash Express ต้องยอมทำตามโดยปฏิเสธไม่ได้

ศูนย์กระจายสินค้าสาขาวังน้อยค่อนข้างสำคัญกับ Flash Express เพราะเป็นศูนย์กลางในการกระจายพัสดุไปยังกรุงเทพ (เขตปทุมวัน, สัมพันธวงศ์ และสาทร) กับอีก 14 จังหวัด เช่นฉะเฉิงเทรา, นครนายก, นครปฐม, สระบุรี, สระแก้ว และอ่างทองเป็นต้น

แม้จะปิดให้บริการแค่ 3 วัน (ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.) และมีมาตรการต่าง ๆ คุ้มครอง เช่น หากลูกค้าปลายทางปฏิเสธรับพัสดุเนื่องจากความล่าช้าของศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว Flash Express จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตีกลับ หรือจ่ายเงินชดเชยเต็มจำนวนหากสินค้าเสียหาย แต่เหตุการณ์นี้สร้างผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในวงกว้าง

แม่ค้าออนไลน์ทั้งกังวล และปล่อยวาง

อ้างอิงจากเฟสบุ๊กทางการของ Flash Express พบว่า มีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เข้าไปสอบถามปัญหา และรายละเอียดในการคุ้มครองจากเหตุการณ์นี้หลายพันคอมเมนต์ โดยจุดที่หลายคำถามเชื่อมกันคือ สถานะของพัสดุเป็นอย่างไรบ้าง และหากสินค้ามีปัญหาทางบริษัทจะชดเชยแค่ไหน

เนื่องจากถ้าเป็นของใช้ทั่วไปคงไม่เสียหายจากเหตุการณ์นี้เท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นของสด เช่นผลไม้ และของกินรูปแบบต่าง ๆ การที่พัสดุถูกเพิ่มระยะเวลาจัดส่งอาจทำให้พัสดุเสียก่อนถึงมือผู้รับได้ และหากนัดการส่งไว้แล้ว แต่ผู้ส่งไม่สามารถส่งได้ตามเวลา จะกระทบกับความน่าเชื่อถือของพ่อค้าแม่ค้า แม้จะมีเหตุผลที่ฟังขึ้นก็ตาม

ในทางกลับกันมีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนหนึ่งปล่อยวางจากเหตุการณ์นี้ และพยายามหาวิธีอื่นเพื่อให้สินค้าไปถึงผู้สั่งได้เหมือนเดิม ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือการไปใช้บริการบริษัทจัดส่งพัสดุรายอื่น เช่น ไปรษณีย์ไทย, J&T หรืออื่น ๆ เพราะบริษัทเหล่านั้นยังดำเนินธุรกิจได้เหมือนปกติ

สบช่องคู่แข่งจูงใจลูกค้าด้วยบริการแตกต่าง

แม้จะดึงดูดให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ย้ายจาก Flash Express มาใช้บริการของแบรนด์ตัวเองได้ช่วงสั้น ๆ แต่หากแบรนด์เหล่านี้สามารถสร้างความประทับใจในการใช้บริการได้ ก็ไม่ยากที่จะดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการในระยะยาว จึงเป็นช่วงเวลากอบโกยของคู่แข่ง Flash Express ที่ต้องให้บริการดีที่สุดเท่าที่จะดีได้

คู่แข่งของ Flash Express จึงโปรโมทบริการของตัวเองในเฟสบุ๊กทางการในช่วงเวลานี้ เช่น SCG Express ที่โปรโมทบริการส่งผลไม้ หรือ J&T Express ที่ปรับค่าส่งใหม่เป็น 1 กก. ค่าส่งเริ่มต้นเพียง 25 บาท, 2 กก. ค่าส่งเริ่มต้นเพียง 29 บาท และ 3 กก. ค่าส่งเริ่มต้นเพียง 35 บาท เป็นต้น

ไม่ใช่แค่ Flash Express ที่มีปัญหา แต่ยังมี Best Express ที่แจ้งว่า จากการระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้การจัดส่งพัสดุเกิดความล่าช้ากว่าปกติในพื้นที่สาขาเขตสาทร กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 20-28 ก.ค. ประกอบด้วย เขตสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ 10120, เขตสาทร แขวงทุ่งวัดดอน 10120 และเขตสาทร แขวงยานนาวา 10120

สรุป

ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ให้บริการขนส่งพัสดุรายไหนอยากให้เกิดขึ้น และถือว่าดีที่ Flash Express ออกมายอมรับตรง ๆ เพราะถ้าปกปิดเหตุการณ์นี้ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์น่าจะประสบปัญหามากกว่าเดิม ดังนั้นต้องดูกันว่า จากเหตุการณ์นี้ Flash Express จะรักษาลูกค้าไว้ได้หรือไม่ และคู่แข่งจะเล่นแผนการตลาดกับเหตุการณ์นี้อย่างไร

ส่วน Kerry Express ยักษ์ใหญ่ในตลาดที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ คงเป็นทางเลือกสุดท้ายของพ่อค้าแม่ค้า เพราะทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “แพง”

อ้างอิง // Flash Express

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา