แม้คู่แข่งในระดับเดียวกันจะเริ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าล้วนกันแล้ว แต่ Ferrari ก็ยังยืนยันที่จะไม่เดินหน้าเรื่องนี้ เพราะมองว่าเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ยังไม่พร้อม และอาจต้องใช้เวลามากกว่า 5 ปีถึงจะเหมาะกับ Supercar
แบตเตอรี่ไม่ดี ไม่ใช่ไม่อยากทำ
Enrico Galliera ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด Ferrari เล่าให้ฟังว่า แม้คู่แข่งบางรายจะพัฒนา Supercar แบบรถยนต์ไฟฟ้าล้วนแล้ว แต่นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และการทำตลาดของ Ferrari มากนัก เพราะ Ferrari ยังมีความแข็งแกร่งของแบรนด์ และการทำรถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่สิ่งที่ช่วยเพิ่มแรงดึงดูดให้กับแบรนด์ในตอนนี้
“ด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ยังไม่มากพอ และอาจต้องรออย่างน้อย 5 ปี หรือมากกว่านั้น เพื่อให้เทคโนโลยีของแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และใช้งานกับ Supercar ได้เต็มรูปแบบ ทำให้ตอนนี้ Ferrari ยังไม่มีความจำเป็นต้องทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วน”
ทั้งนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ferrari อย่าง Louis Camilleri ได้แจ้งเมื่อปี 2562 ว่า รถยนต์ไฟฟ้าล้วนของ Ferrari จะออกมาหลังจากปี 2568 เพราะเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกพัฒนามากกว่าเดิม และทำให้บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่รักษาความเป็น Ferrari ได้
ปัจจุบัน Ferrari ทำตลาดรถยนต์ Plug-in Hybrid รุ่น SF90 Stradale ที่มาพร้อมกับเครื่อง V8 ขนาด 3.9 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว พละกำลังสูงสุด 985 แรงม้า ส่วนคู่แข่ง Supercar ด้วยกันเช่น Pininfarina ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนพละกำลังสูงสุด 1,900 แรงม้า รวมถึง Koenigsegg และ Lotus ที่เดินหน้าผลิตเช่นเดียวกัน
สรุป
แม้รถยนต์ไฟฟ้าล้วนจะเริ่มเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วไป แต่กลุ่มเศรษฐีที่ชื่นชอบ Supercar หรือ Hypercar นั้นอาจมองข้ามเรื่องนี้ อาจเพราะซุ่มเสียงของเครื่องยนต์นั้นดึงดูดใจกว่า จากจุดนี้เอง Ferrari จึงยังไม่รีบผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วน แต่หากยังไม่ปรับตัว ก็มีโอกาสสูงที่คู่แข่งจะแซงเอาได้ง่ายๆ
อ้างอิง // Car Advice
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา