บุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-Cigarette นั้นได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น แต่นั้นอาจเป็นเรื่องไม่ดีในสายตาของ FDA หรืออย. ของสหรัฐอเมริกา เพราะผู้ผลิตนั้นเน้นทำตลาดกับกลุ่มนี้มากเกินไป
ลงดาบ 5 ผู้ผลิตให้เลิกทำตลาดกับวัยรุ่น
ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยที่เราจะเห็นการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแพร่หลายมากขึ้น แต่ในสหรัฐอเมริกาก็มีการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น เพราะความสะดวก และให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากบุหรี่ธรรมดาอย่างชัดเจน แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีในสายตาของ FDA
Scott Gottlieb กรรมธิการ FDA แจ้งว่า การใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐฯ นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และโดยส่วนตัวเห็นว่าแบรนด์ผู้ผลิตสินค้านี้เน้นทำตลาดกับวัยรุ่น และใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์มากเกินไป โดยไม่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และปัญหาที่จะตามมาหลังจากใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า
ทำให้ FDA ตัดสินใจส่งเรื่องไปยัง 5 ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ประกอบด้วย Jull Labs, Vuse, Blue, Markten XL และ Logic ให้หาวิธีหยุดความนิยมการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มวัยรุ่นภายใน 60 วัน หากไม่สามารถทำได้ FDA มีสิทธิ์พิจารณาให้ทั้ง 5 บริษัทไม่สามารถจำหน่ายสินค้าในสหรัฐฯ ได้
ขณะเดียวกัน FDA มีการส่งเรื่องไปยังร้านค้า Online กว่า 1,100 แห่ง รวมถึงร้านค้าปลีกทั่วไปให้เลิกจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ากับวัยรุ่น รวมถึงมีการออกค่าปรับจริงกับผู้ฝ่าฝืนแล้ว 131 ราย เพื่อป้องกันการแพร่หลายของสินค้าชนิดนี้ และต้นตอของเรื่องนี้เริ่มมาจากเดือนเม.ย. ที่ FDA พบว่ามีบางแบรนด์ตั้งใจทำตลาดกับวัยรุ่นอย่างชัดเจน
สำหรับทั้ง 5 แบรนด์บุหรี่ไฟฟ้าข้างต้นนั้นกินส่วนแบ่งในตลาดนี้กว่า 97% ในทางกลับกันจากความนิยมนี้ทำให้ Juul Labs เพิ่งได้รับเงินทุนกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 39,000 ล้านบาท) เพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขยายการจำหน่ายไปสู่ต่างประเทศ
สรุป
บุหรี่ไฟฟ้านั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีข้อพิสูจน์แล้วว่ามันมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริงๆ แต่จะดีกว่าหรือไม่ถ้าไม่ได้สูบสิ่งเหล่านี้เลย ซึ่งจุดนี้ก็ห้ามกันไม่ได้ แต่กับการทำตลาดกับกลุ่มวัยรุ่น หรือผู้เยาว์ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ดี และไม่แปลกที่ FDA ต้องออกมาตรการลงดาบเช่นนี้
อ้างอิง // Quartz
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา