เป็นการขยับตัวครั้งสำคัญอีกครั้งของ Fast Retailing เจ้าของแบรนด์ Uniqlo หลังแสดงความสนใจขยายการผลิตในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะค่าแรงในประเทศจีนที่เป็นโรงงานหลักปรับตัวสูงขึ้น
เวียดนามกับเป้าหมายสำคัญของบริษัท
ก่อนหน้านี้ Fast Retailing มีโรงงานในประเทศเวียดนามอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่โรงงานหลักเมื่อเทียบกับโรงงานผลิตเสื้อผ้าในประเทศจีน แต่ด้วยค่าแรงที่ถูกกว่าในประเทศจีนถึงเท่าตัว ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่สงบนิ่ง และมั่นคงกว่า ทำให้บริษัททยอยขยายฐานการผลิตในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง
สังเกตจากยอด Supplier สินค้าของ Uniqlo ในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. 2560 ซึ่งจุดต่างของแรงงานเวียดนามกับแรงงานจีนคือเรื่องคุณภาพในการผลิตสินค้าด้วย แต่ถึงอย่างไรโรงงานการผลิตในประเทศเวียดนามก็ยังคงเป็นฐานการผลิตอันดับที่ 2 รองจากจีนเท่านั้น
ทั้งนี้ก็มีโอกาสที่ฐานการผลิตในประเทศเวียดนามจะขึ้นมามีบทบาทมากขึ้น เพราะแรงงานในประเทศจีนที่เกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผ้านั้นน้อยลง และหันไปรับงานอย่างอื่นแทน ส่วนทาง Fast Retailing ก็มีโรงงานกว่า 184 แห่ง เพิ่มขึ้น 38 แห่งเมื่อเทียบกับก.พ. 2560 กระจายอยู่ 7 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งโรงงานทั้งหมดนี้ผลิตสินค้าคิดเป็นมูลค่ากว่า 80% ของแบรนด์ Uniqlo เนื่องจากบางคอลเล็คชั่นทางบริษัทก็ผลิตขึี้นมาเอง เพื่อสร้างความแตกต่างกับคอลเล็คชั่นอื่นๆ ส่วนในประเทศไทยล่าสุด Uniqlo เพิ่งเปิดสาขา Stand Alone เพื่อทดลองการทำตลาดรูปแบบใหม่
อ้างอิง // Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา