ทิศทางการพัฒนาระบบจดจำใบหน้า หรือ Facial Recognition น่าจะไปได้อีกหลายอุตสาหกรรม หลังบางธุรกิจเริ่มนำมาใช้แล้ว เช่น Apple กับ iPhone X และล่าสุดเทคโนโลยีนี้อาจถูกนำมาใช้จริงโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวแล้ว
จ้าง NEC พัฒนาระบบรองรับ 4 แสนคน
เหลืออีกเพียง 2 ปี มหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวก็จะเริ่มขึ้นแล้ว และครั้งนี้ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้วางมาตรการต่างๆ ที่เข้มข้นขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกับการแข่งขันในครั้งก่อนที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ในประเทศบราซิล ไม่ว่าจะเป็นตัวสนามกีฬา, ที่พักนักกีฬา หรือแม้กระทั่งระบบบริหารจัดการนักกีฬา
โดยเฉพาะอย่างสุดท้าย ทางคณะกรรมการได้ลงทุนจ้าง NEC หนึ่งในผู้พัฒนาระบบไอทียักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อมาสร้างระบบ Facial Recognition เพื่อใช้ในการตรวจสอบนักกีฬา, คณะกรรมการ และผู้สื่อข่าว เพราะต้องการอำนวยความสะดวกเรื่องการตรวจสอบ และเพิ่มดีกรีด้านความปลอดภัยได้ทันที
แต่มันก็คืออีกความท้าทายของ NEC เหมือนกัน แม้จะลงทุนพัฒนาระบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แถมยังเคยถูกนำมาใช้จริงกับตำรวจชิคาโกเพื่อตรวจจับผู้ต้องสงสัยแบบ Live Streaming เพราะในการแข่งขันโอลิมปิกก็เหลือเวลาเพียง 2 ปี และยังต้องพัฒนาระบบให้รองรับการใช้งานได้กว่า 4 แสนคนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามการนำเทคโนโลยี Facial Recognition ยังมีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวอยู่มาก แม้จะช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี เช่นกรณีบัตรประจำตัวนักกีฬาหาย หรือชำรุด แล้วเข้าแข่งขันไม่ได้ ดังนั้นก็อยู่ที่คณะกรรมการโอลิมปิกว่าศึกษาเรื่องนี้มาดีพอหรือยัง เพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต
อ้างอิง // Digital Trends
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา