#โรงพยาบาลขาดหน้ากากหนักมาก หลังอนุทินแจงคาดว่าจะขาดแคลนหากไม่บริหารจัดการ

อนุทินโพสต์ข้อความผ่าน facebook ระบุว่า คนที่หาซื้อหน้ากากอนามัยไม่ได้ ทั้งพี่น้องประชาชนและสถานพยาบาลเอกชน ขอความกรุณาติดต่อกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพราะกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่จัดหาหน้ากากอนามัยให้โรงพยาบาล สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น

หลังจากที่มีประเด็นเรื่องเตรียมหามาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) ในกลุ่มแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ (ผีน้อย) โดยทางรัฐบาลได้มีการวางแผนเตรียมรับมือแรงงานไทยเข้ามาไทยต้องผ่านการตรวจสอบหลายอย่างที่ต้องใช้เวลาประมาณ 10 วัน ไปจนถึงมาตรการเฝ้าระวังในพื้นที่ก่อน 14 วัน

อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ภาพจากทำเนียบรัฐบาล

จากนั้น จึงมีการถามประเด็นขาดแคลนหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในโรงพยาบาล ทำให้สังคมตั้งคำถามประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ โดยอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องนี้ ทางผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 12 เขตสุขภาพรายงานว่า ยังบริหารจัดการได้ มีแต่คาดว่าจะขาดแคลนหากไม่บริหารจัดการ ซึ่งเป็นการคาดว่าจะขาดแคลนมาเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน บางคั้งต้องดูภาพรวม หากมีบุคลากร 1 คน เดินไป 1 ห้องแล้วหาหน้ากากอนามัยไม่เจอก็คงไม่ใช่

บางครั้งต้องดูก่อน ที่รายงานหน้ากากอนามัยมีหลายแสนชิ้น ที่พอให้ทำงานได้อยู่ ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ทางกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการแก้ไขแล้ว ห้ามส่งออก องค์การเภสัชกรรมพร้อมซื้อวันละ 3.5 แสนทุกวัน

ขณะที่นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีบริษัทประกันมามอบประกันชีวิตให้กับสถาบันบำราศนราดูรขณะที่มีบุคลากรสาธารณสุขที่ต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ทั้งประเทศว่า เดิมกระทรวงจะมีกองทุนช่วยเหลือผู้ปฎิบัติงาน ที่ได้รับผลกระทบจากการให้บริการสาธารณสุขอยู่แล้ว ครั้งนี้กระทรวงได้สั่งการว่า มีใครบ้างที่ทำงานโดยตรงกับผู้ป่วยและประสานไปยังบริษัทประกันสุขภาพให้เจ้าหน้าที่ครอบคลุมคนทำงานทั้งหมดด้วย ขณะเดียวกันกรมการแพทย์ก็มีการตั้งกองทุนช่วยเหลือเพิ่มเติมเช่นกัน

ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภาพจากทำเนียบรัฐบาล

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ นายกรัฐมนตรีกำกับดูและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี มาตรการระยะเร่งด่วน 14 ข้อ ในส่วนของหน้ากากอนามัย นายกรัฐมนตรีสั่งการเข้มงวด ห้ามกักตุน จำหน่ายเกินราคา ผู้ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยสามารถผลิตเต็มกำลังได้ 1.3 ล้านชิ้นต่อวัน โดยศูนย์การกระจายและบริหารจัดการสินค้าหน้ากากอนามัย มีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็น ผอ. ศูนย์ รับผิดชอบการจัดสรรหน้ากากอนามัย เบื้องต้น 7 แสนชิ้นต่อวันจะส่งไปยังสถานพยาบาลเพื่อบุคลากรทางการแทพย์ และกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยง จำหน่ายให้ประชาชน กระทรวงพาณิชย์และมหาดไทยร่วมกันจัดเจ้าหน้าที่ตรวจรับทุกจุดจนถึงปลายทาง เพื่อตรวจสอบการจัดสรรหน้ากากอนามัย ป้องกันการกักตุน และจำหน่ายเกินราคา

อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีกระทรวงคลัง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ภาพจากทำเนียบรัฐบาล

ล่าสุด กระทรวงอุตสาหรรมจัดประชุมผู้ประกอบการภาคเอกชนผู้ผลิตหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ร่วมกับสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานพันธมิตร ผู้ประกอบการกว่า 50 ราย ร่วมหารือและเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาหน้ากากอนามัย

พร้อมผลักดันออกมาตรการเร่งด่วน 2 ส่วนสำคัญคือ

  • เร่งหารือ ขอความร่วมมือบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยชนิดใช้ครั้งเดียว อยู่ในหมวดอุปกรณ์สำคัญสำหรับทางการแพทย์เพื่อแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยมีปริมาณเพียงพอกับการใช้งาน กำชับให้เร่งการผลิตเต็มกำลังการผลิต ด้วยความเร่งด่วน
  • หารือกับหน่วยงานร่วมที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อเตรียมความพร้อมผลิตหน้ากากอนามัยด้วยวัสดุผ้า ที่สามารถซักและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อกลุ่มประชาชนที่ต้องกรใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เบื้องต้น ส่งตัวอย่างผ้าเพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขรับรองว่า ผ้าชนิดใดที่มีความปลอดภัยต่อประชาชนไม่มีสารพิษตกค้าง เบื้องต้นตั้งเป้าผลิต 10 ล้านชิ้นภายในเดือนนี้ 

ล่าสุด มีการทำแคมเปญรณรงค์ให้กระจายหน้ากากอนามัยให้ รพ. และสถานพยาบาลเป็นลำดับแรกแล้ว สามารถเข้าไปร่วมลงชื่อได้ที่ลิงก์นี้

ที่มา – ไทยรัฐ, ข่าวสด, เดลินิวส์Hfocus, ทำเนียบรัฐบาล (1), (2), Change.org

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูต การเมือง ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม ชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบสืบค้นข้อมูล ชอบทำคอนเทนต์