Ernst & Young หรือ EY หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชี Big Four ประกาศปลดพนักงานในสหรัฐอเมริกา 3,000 คน หรือคิดเป็น 5% ของพนักงานที่นั่น เนื่องจากไม่สามารถแยกธุรกิจตรวจสอบบัญชีออกจากธุรกิจอื่นได้ และกำลังเจอปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงจำนวนพนักงานที่มีมากเกินไป
EY ปลดพนักงานกว่า 3,000 คน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตามหลังสาขาสหรัฐอเมริกาของ EY คัดค้านแผนของบริษัทแม่ที่ต้องการแยกธุรกิจตรวจสอบบัญชีออกจากธุรกิจอื่น เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับกิจการ และสามารถเติบโตในฝั่งธุรกิจให้คำปรึกษาได้ดีขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
การปลดพนักงาน 3,000 คน หรือคิดเป็น 5% ของ EY ในสหรัฐอเมริกาจะกระทบกับพนักงานฝั่งธุรกิจให้คำปรึกษา และทางบริษัทอ้างเรื่องปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับพนักงานบางคนอยู่กับบริษัทเป็นเวลานานจนเกิดภาวะ Overcapacity หรือมีพนักงานมากเกินไป
หากเปรียบเทียบกับกลุ่ม Big Four ด้วยกัน EY ถือเป็นบริษัทล่าสุดที่เริ่มปลดพนักงานในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 เริ่มดีขึ้น โดยก่อนหน้านี้มี KPMG ที่ทยอยปลดพนักงานไปก่อนแล้ว ส่วน PwC และ Deloitte มีการปลดพนักงานไปก่อนตั้งแต่ช่วงโรคโควิด-19 เริ่มระบาด
ปัจจุบันธุรกิจต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกากำลังเดินหน้าปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี, กลุ่มบริษัทเกี่ยวกับความบันเทิง รวมถึงกลุ่มยานยนต์ เพื่อควบคุมต้นทุน และต้านทานการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ FED ที่ต้องการควบคุมเงินเฟ้อ และรักษาสภาวะเศรษฐกิจให้กลับมาดีขึ้น
อ้างอิง // Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา