เมื่อ NSL บริษัทผู้ผลิตแซนวิชส่งร้านสะดวกซื้อรายใหญ่อย่าง 7-Eleven จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2021
Brand Inside สัมภาษณ์ สมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร NSL โดยพูดคุยถึงภาพรวมธุรกิจ การปรับตัวในยุคโควิด และแนวทางในอนาคตของบริษัท
ภาพรวมธุรกิจ ปรับตัวหนักในยุคโควิด
สมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นด้วยการเล่าให้ฟังว่าปีที่ผ่านมาธุรกิจได้รับผลกระทบ แต่ในเมื่อวิกฤตคือโอกาส พอเจอกับความท้าทาย เราก็ปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
“แซนวิช สินค้าขายดีที่สุดของเราได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน”
“แต่อย่างไรก็ดี สินค้าหลักอย่างแซนวิชยังไปต่อได้ เพราะภาพของแซนวิชคือ Half Meal คือของกินที่จะมองเป็นอาหารหรือกึ่งอาหารก็ได้ แล้วเรามีการปรับตัว ด้วยความที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเซเว่น เราจับมือกันทำแซนวิชอบร้อนส่งถึงมือลูกค้าแบบเดลิเวอรี่ ส่งแซนวิชร้อนๆ ถึงมือลูกค้า สิ่งนี้ตอบโจทย์มาก ช่วงหลังๆ เซเว่นทำ Vending Machine ที่ไปตั้งตามคอนโด อาคารต่างๆ เราก็เอาสินค้าของเราไปวางด้วย นี่คือการปรับตัวของเรา”
“ในอีกด้าน ถ้าไปดูโรงงานของเรา ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิดหนักๆ NSL จัดการเรื่องโควิดจริงจังมาก เราประชุมทุกเช้า ทุกแผนกมารายงานความเสี่ยง เรามีแรงงานต่างชาติ เมียนมา กัมพูชา ลาว ก็รายงานกันสม่ำเสมอ ระมัดระวังเต็มที่ ส่วนในระหว่างนั้นถ้ามีการรับแรงงานเพิ่ม ก็ต้องกักตัวก่อน 14 วัน ถึงจะเริ่มงานได้ ล่าสุดเราตรวจคัดกรองเชื้อไปกว่า 50% ของพนักงานทั้งบริษัทแล้ว เรามีพนักงานทั้งหมดประมาณ 1,500 คน เราจริงจังกับการดูแลแหล่งผลิตมาก เพื่อไม่ให้กระทบการผลิตและยอดขาย”
- รายได้ NSL ปี 2019 อยู่ที่ 3,373.5 ล้านบาท
- รายได้ NSL ปี 2020 อยู่ที่ 2,164.9 ล้านบาท
แน่นอนว่า ธุรกิจหลักของ NSL คือการทำแซนวิชและเบเกอรี่ส่งขายให้กับ 7-Eleven เพราะถ้าดูในแง่รายได้มีสัดส่วนสูงถึง 94.5% แต่คุณสมชายบอกว่า NSL ยังมีธุรกิจการผลิตอาหารในส่วนอื่นด้วยคือ Food Service อาหารแช่แข็ง และขนมสายสุขภาพ
ทำงานกับเซเว่นมากว่า 10 ปี
คุณสมชาย เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของความร่วมมือกับเซเว่นโดยบอกว่า “ทำงานกับเซเว่นมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ถ้าเอาที่รู้จักกันจริงๆ ก็ร่วม 25 ปี เรียกได้ว่า ทำงานมานานจนรู้ว่าพาร์ทเนอร์ต้องการอะไร
- หนึ่งในคำถามที่คุณสมชายจะได้รับเสมอคือ ทำสินค้าส่งขายเซเว่น กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะเอาไปทำเองหรือไม่?
คุณสมชายตอบว่า “ไม่กลัว เพราะเราค้าขายมานาน รู้จักกันดี เราเข้าใจธรรมชาติธุรกิจของกันและกัน คือเซเว่นเขาทำธุรกิจอย่างดุดัน (aggressive) มาก เขามีแผนขยายสาขาตลอด ดังนั้นวิธีการทำงานของเขาจึงต้องเข้มข้นมาก”
“ก่อนหน้านี้ ผมเคยทำสินค้าส่งขายทุกรายมาแล้ว ไม่ว่าจะโรบินสัน, เซ็นทรัล, ท็อป, โลตัส, บิ๊กซี ผมเคยร่วมงานมาหมดแล้ว แต่ผมมองว่าเซเว่นไม่เหมือนรายอื่นๆ เพราะเขาเน้นการทำงานที่ลงลึก รู้ไหมว่าสินค้าหนึ่งตัว เขาแบ่งทุกแผนกมาดูเลย มีทั้งทีมการตลาด ทีมเซลส์ ทีมฝ่ายผลิต สินค้าทุกชิ้นต้องได้รับการพัฒนาอย่างละเอียด อย่างสมัยหนึ่งที่ผลิตข้าวกล่อง เขาตรวจสอบคุณภาพของข้าวจริงจังมาก ถ้าจะขายร้อยกรัม ข้าวจะหักไม่ได้เลย เขาเข้มข้นและลงลึกกับคุณภาพสูงมาก ผมว่าถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของเขา ก็ร่วมงานกันได้”
อนาคตของ NSL คือบริษัทอาหาร ไม่หยุดแค่แซนวิช-เบเกอรี่
คุณสมชายบอกว่า ถ้าพูดเรื่อง IPO หรือเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ อันที่จริง คิดเรื่องนี้มาร่วม 3 ปีแล้ว
“เรามองวิสัยทัศน์ตัวเราว่า เราจะอยู่ในอาหารหลายๆ กลุ่ม นอกจากแซนวิช เบเกอรี่ที่เราเชี่ยวชาญ เราทำต่อแน่นอน แต่หลังจากนี้เราจะทำทั้งอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน อาหารแช่แข็ง เราศึกษาจริงจัง คือไม่ใช่แค่เป็นคนส่งวัตถุดิบ แต่เราจะปรุงสุกให้กับเชนร้านอาหารแบบสำเร็จรูป นี่คือแนวทางที่จะไป”
พูดง่ายๆ คือในอนาคตคุณสมชายมองภาพว่า NSL จะเป็นบริษัทที่ผลิตอาหารอย่างหลากหลาย ทั้งแซนวิช เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป และ Food Service
“หลากหลายแต่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอาจเป็นคำตอบ” คุณสมชายมองว่าเทรนด์สุขภาพมาแรง ไม่ใช่แค่ในไทยแต่เป็นเทรนด์ระดับโลก ซึ่ง NSL ไม่พลาดกระแส Super Food ตอนนี้ทางบริษัทกำลังศึกษา ‘จิ้งหรีด’ เพื่อนำมาทำเป็นอาหารสุขภาพแห่งอนาคต
“เราศึกษาจิ้งหรีดมา 1 ปีแล้ว NSL ไปทำพาร์ทเนอร์ที่เชียงใหม่ เราจะทำผลิตภัณฑ์ Natural bite เน้นไปที่สินค้าสุขภาพ (health food) สินค้าที่จะมาก่อนเลยก็คือ ‘ทองม้วนจิ้งหรีด’ ไตรมาส 2 ปีนี้น่าจะได้เห็นแน่นอน”
ธุรกิจจะเติบโตแค่ไหน แต่ “คน” คือสินทรัพย์ที่สำคัญขององค์กร
คุณสมชายพูดถึงเรื่องบุคลากร โดยระบุว่า “สำหรับ NSL เราดูแลพนักงานเต็มที่ เรามีเป้าหมายในอนาคต ในด้านการทำงานเราปรับตัวเสมอ แบ่งทีมแบ่งแผนกจัดการ ตอนนี้เรามีทั้งพนักงานที่ทำงานในโรงงาน ทำงานในออฟฟิศ และทำงานจากที่บ้าน ช่วงหลังเราเน้นให้มาออฟฟิศเท่าที่จำเป็น และเน้นประชุมผ่านทางออนไลน์”
“ในองค์กร คนคือสินทรัพย์ที่สำคัญ เราเติบโตมาได้ ก็เพราะบุคลากรเป็นส่วนที่สำคัญ” คุณสมชายให้สัมภาษณ์ทิ้งท้าย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา