เมื่อ 2 ปีที่แล้ว Lou Jiwei อดีตรัฐมนตรีการคลังของจีนได้กล่าวว่ามีโอกาส 50/50 ที่ประเทศจีนจะเข้าสู่กับดักประเทศรายได้ปานกลาง ซึ่งประเทศจีนนั้นมีโอกาสสูงมาก ที่จะติดกับดักรายได้ปานกลางนี้ แต่ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ประเทศจีนกำลังเข้าสู่ประเทศร่ำรวย
Lou Jiwei อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีน ซึ่งตอนนี้ได้ตำแหน่งในสภาแห่งชาติด้านกองทุนประกันสังคมของจีน บอกว่าตอนนี้เขาได้เปลี่ยนใจแล้ว โดยเขาบอกว่าประเทศจีนจะเข้าสู่ประเทศร่ำรวยแน่นอน แต่ก็มีนักเศรษฐศาสตร์ออกมาแย้งกับเรื่องนี้เช่นกัน
จีนจะเข้าสู่ประเทศที่ร่ำรวยแน่นอน
Lou Jiwei เคยกล่าวไว้ในงานอภิปรายที่มหาลัย Tsinghua ว่ามีโอกาส 50/50 ที่ประเทศจีนจะเข้าสู่กับดักประเทศรายได้ปานกลาง แต่ล่าสุดตัวเขาเองได้กล่าวไว้ที่ปักกิ่งในช่วงประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ว่า “ผมสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่า เมื่อ 2 ปีครึ่งที่รัฐบาลเราดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ เป็นไปได้ว่าประเทศจีนจะก้าวเข้าสู่ประเทศรายได้สูงภายใน 3 หรือ 5 ปีข้างหน้า” ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือเศรษฐกิจจีนยังเติบโตในระดับ 6.5% ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีจีนคนปัจจุบันที่จะพาจีนเข้าสู่สังคมมีกินมีใช้ในปี 2020
แต่นักเศรษฐศาสตร์จีนแย้งว่าจีนยังอาจเกิดปัญหาติดกับดักรายได้ปานกลาง
Hu Xingdou นักเศรษฐศาสตร์จาก Beijing Institute of Technology ได้กล่าวว่าจีนอาจยังมีปัญหาติดกับดักรายได้ปานกลาง โดยปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขที่รัฐบาลจีนจะมองข้ามไม่ได้คือ โดย Hu ได้ยกตัวอย่างมาเช่น
- ปัญหาชาวนายากจนหลายล้านคนไม่มีที่ทำกิน
- บริษัทเอกชนของจีนรวมไปถึงบริษัทต่างชาติ ยังต่อสู้ได้อย่างไมยุติธรรมกับรัฐวิสาหกิจของจีนเอง (เพราะว่ารัฐบาลยังช่วยเหลือทางการเงิน หรือแม้แต่ทำให้รัฐวิสาหกิจได้เปรียบเอกชนทั้งที่จริงๆ ควรจะสู้ไม่ได้)
- แรงานอพยพยังโดนแบ่งแยกอยู่
Hu บอกว่าเค้าอาจไม่ได้มองโลกสวยมากเหมือนกับ Lou โดยเฉพาะปัญหาที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจของจีน โดย Hu ได้เสริมต่อว่า การที่จีนนั้นทำให้รัฐวิสาหกิจของจีนนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งนั้น ทำให้การลงทุนจากต่างชาตินั้นยิ่งหดหายลงไปอีก และเอกชนยิ่งจะไม่อยากเข้ามาสู้แน่นอน ทำให้จีนมีโอกาสติดกับดักรายได้ปานกลาง
UBS ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 4 อาจชะลอตัวลง
Wang Tao นักวิเคราะห์ของทาง UBS ได้ประมาณ GDP ของไตรมาส 4 อยู่ที่ 6.6% ส่วนในปีหน้านั้น UBS ประมาณการ GDP ที่ 6.4% ส่วนยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าของจีนจะลดลงอีก 2% เป็นผลเพราะทางการจีนลดความร้อนแรงในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศ รวมไปถึงนโยบายของธนาคารกลางจีนที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้
ที่มา – South China Morning Post [1], [2]
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา