เป็นสตาร์ทอัพของคนไทยอีก 1 รายที่น่าจับตามอง โดยหลังจากที่ Event Pop ได้รับเงินลงทุนจาก Intouch และพาร์ทเนอร์มาถึง 53 ล้านบาทในปีก่อน มาปี 2018 จึงส่งฟีเจอร์ใหม่ออกมาชื่อ SPACE แพลตฟอร์มดิจิทัลคอนเทนต์ที่จะทำให้ชีวิตของผู้จัดงานอีเว้นท์ดีขึ้น
Event Pop สตาร์ทอัพจัดงานอีเว้นท์ ที่น่าจับตามองแห่งยุค
- อันดับแรก สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักสตาร์ทอัพรายนี้ เริ่มต้นที่ตรงนี้กันก่อน
Event Pop คือสตาร์ทอัพจัดงานอีเว้นท์ของคนไทย ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่การจำหน่ายบัตร ลงทะเบียนเข้างาน ไปจนถึงการจ่ายเงินแบบไร้เงินสด ทั้งใช้บัตรและใช้ QR Code โดยมีระบบการทำงานทั้งในแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์
Event Pop ก่อตั้งในปี 2015 จุดประสงค์คือต้องการมาเติมเต็มช่องโหว่ของการจัดงานอีเว้นท์รูปแบบเก่า จนในปี 2017 ไปเตะตา Intouch โดยโครงการ Invent ที่เป็นหน่วยงานลงทุนในสตาร์ทอัพของบริษัท จึงได้ลงทุนในซีรีย์ A ร่วมกับ บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon Venture Capital) กองทุน VC ของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับ Event Pop ไปถึง 53 ล้านบาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ออแกไนเซอร์ยุคเก่าถอยไป! Intouch ลงทุน 53 ล้านบาทในซีรีส์ A ของ Event Pop สตาร์ทอัพจัดงานอีเว้นท์
- หลังจากระดมทุนมาจากในไตรมาสที่ 3/2017 แผนงานต่อไปของ Event pop ในไตรมาสที่ 1/2018 คือการส่งฟีเจอร์ใหม่มาลงในแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ในชื่อ SPACE แพลตฟอร์มดิจิทัลคอนเทนต์
ทำความรู้จักฟีเจอร์ใหม่ SPACE | หรือ Event Pop จะเข้ามาทำสื่อด้วย?
Event Pop เริ่มต้นปี 2018 เตรียมส่งฟีเจอร์ใหม่ออกมาในชื่อว่า SPACE แนวคิดคือจะเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้จัดงานอีเว้นท์มาสร้างสรรค์คอนเทนต์ แต่ในระหว่างนี้ ฟีเจอร์ยังอยู่ในการทดลอง จะแล้วเสร็จให้ใช้จริงในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
ภัทรพร โพธิ์สุวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท อีเว้นท์ ป็อป โฮลดิ้งส์ พีทีอี ลิมิตเต็ด เล่าให้ฟังว่า ปกติแล้ว เมื่อลูกค้าสนใจที่จะเข้าร่วมงานนั้นๆ จะเข้ามากดซื้อบัตรจากแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ จากนั้นพอถึงวันร่วมงานก็ไปร่วมงาน เสร็จจากงาน ก็จบกันไป
“งานอีเว้นท์ที่เกิดขึ้น เกิดแล้วก็จบกันไป ทำไมไม่มีการทำคอนเทนต์แบบดิจิทัล คือเอาเนื้อหามาเล่าต่อ” นี่คือจุดเริ่มต้นของแนวคิดในการที่คิดจะทำ SPACE ฟีเจอร์ที่จะมาแก้ Pain Point ให้คอนเทนต์จากงานอีเว้นท์อยู่บนออนไลน์ไปตลอด ไม่ใช่จบแค่ที่งานอีเว้นท์
ฟีเจอร์ SPACE จะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มในการกระจายข่าวสาร ข้อมูล และโปรโมชั่น โดยหลังจากที่ลูกค้ากดติดตามแบรนด์นั้นๆ บนแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์บน Event Pop จะทำให้ผู้จัดงานอีเว้นท์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ต่อเนื่องผ่านการสร้างคอนเทนต์มาลงบนแพลตฟอร์ม
อธิบายง่ายๆ คือ ต่อไปนี้ผู้บริโภคที่เข้าไปซื้อตั๋ว-กดบัตรร่วมงานผ่าน Event Pop จะมีฟีเจอร์ใหม่ที่คล้ายหน้า Feed ที่รวมคอนเทนต์จากแบรนด์ต่างๆ (ที่ลูกค้าได้กดติดตามไว้) ทั้งในรูปแบบบทความ รูปภาพ และวิดีโอ หรือมากกว่านั้นหากเป็นงานที่น่าสนใจอาจมีการ Live วิดีโอกันแบบเรียลไทม์
- แพลตฟอร์มน่าสนใจ แต่คำถามใหญ่คือ หรือว่าแค่จัดงานอีเว้นท์อย่างเดียวไม่พอแล้ว Event Pop จึงต้องรุกมาทำธุรกิจสื่อสารมวลชนด้วย?
ภัทรพร ซีอีโอของ Event Pop ตอบแบบนี้ว่า “ในท้ายที่สุด Event Pop ก็คือสื่ออย่างหนึ่ง” แต่ “เราอยากเป็นสื่อที่ไม่ต้องทำเอง” นั่นก็เพราะคนที่จะมาทำหน้าที่ในการผลิตคอนเทนต์คือ ผู้จัดงานอีเว้นท์แต่ละราย เช่น ถ้าคุณเป็นผู้จัดงานอีเว้นท์เรื่อง Blockchain คุณสามารถเขียนบทความ ทำวิดีโอให้คนที่กดติดตามอีเว้นท์ได้อ่านได้ชมกันก่อนที่งานจะเริ่มในอีก 1 เดือนข้างหน้า หรือหลังจากนั้นถ้าคุณไม่มีงานอีเว้นท์ในช่วงนี้ แต่ก็สามารถเขียนบทความหรือทำวิดีโอให้ความรู้เพื่อรักษาฐานลูกค้าในอนาคต
Event Pop บอกว่า ประโยชน์จากการเข้ามาใช้งาน SPACE ของผู้จัดงานอีเว้นท์ มีดังนี้
- ลดค่าใช้จ่ายในการทำเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นลง 90% เพราะทกุอย่างทำบนระบบของ Event Pop ทั้งหมด (ส่วนค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการใช้งาน Event Pop อยู่ที่ 30,000 บาท/ปี)
- ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า สามารถนำไปทำ CRM (Content Management System) ผ่านระบบของ Event Pop ทำให้การกำหนดเป้าหมายได้แม่นยำ
- ทำให้งานอีเว้นท์ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น 30 เท่า (ตัวเลขอ้างอิงของทาง Event Pop เอง)
Intouch พูดถึงแนวทางการลงทุนในสตาร์ทอัพ
คิมห์ สิริทวีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารการลงทุน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้มาร่วมให้สัมภาษณ์ด้วย พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่า “ถ้าไปดูในพอร์ตขณะนี้ Intouch ลงทุนในสตาร์ทอัพประมาณ 13 ราย รวมแล้วมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ตั้งเป้าไว้ว่าจะลงทุนปีละ 200 ล้านบาท ในปี 2018 ตั้งใจจะลงทุนในสตาร์ทอัพอีก 4 ราย ตกแล้วรายละ 50 ล้านบาท (ซีรีย์ A) แต่ก็จะพยายามแบ่งสัดส่วนพอร์ตให้เป็น Seed funding ด้วย”
“แนวทางการลงทุนในสตาร์ทอัพของ Intouch ยังเหมือนเดิม คือเน้นไปที่สตาร์ทอัพในกลุ่ม TMT หรือ Telecommunication, Media และ Technology แต่ในปีนี้จะเจาะจงไปที่สาย Data Analytics, AI, Fintech และ Application”
“ส่วนเกณฑ์ในการเข้าลงทุนต้องใช้เวลาในการศึกษาและทำงานร่วมกันก่อน ที่สำคัญคือต้องเป็นสตาร์ทอัพที่เริ่มทำรายได้ เพราะจะเน้นการลงทุนในซีรีย์ A ขึ้นไป”
แถม : ภาพรวมธุรกิจอีเว้นท์เมืองไทย และสถิติของ Event Pop
- ธุรกิจอีเว้นท์เมืองไทยมีมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท เติบโตจาก 4 ปีที่แล้วที่มีมูลค่าประมาณ 7 หมื่นล้าน
- Event Pop จัดงานอีเว้นท์ไปแล้วกว่า 3,000 งาน
- Event Pop จัดงานอีเว้นท์เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 100 งาน
- Event Pop มีผู้ใช้งานที่ active ต่อเดือน หลักหมื่นปลายๆ (เฉียดแสน)
- Event Pop มียอดเพจวิวทุกช่องทาง 500,000 – 1,000,000 ต่อเดือน
- Event Pop เชื่อว่าหลังจากออกฟีเจอร์ SPACE จะทำให้มี user เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า
- Event Pop อาจโกอินเตอร์ โดยจะเริ่มในภูมิภาคอาเซียนก่อน แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะไปที่ใด เพราะแนวทางการทำธุรกิจไม่ใช่ปัญหาหลัก สิ่งสำคัญคือตัวบทกฎหมายของแต่ละประเทศ
สรุป
เป็นอีกก้าวของ Event Pop สตาร์ทอัพจัดงานอีเว้นท์ที่ได้รับการลงทุนจาก Intouch และพาร์ทเนอร์กว่า 53 ล้านบาทเมื่อปี 2017 มาในปี 2018 จึงได้ส่งฟีเจอร์ใหม่ออกมาในชื่อ SPACE ที่เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลคอนเทนต์ให้ผู้จัดงานอีเว้นท์ใช้สื่อสารกับลูกค้า รวมถึงนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อทำการตลาดต่อในอนาคตได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา