Volt และ Wuling ยังไปได้! เปิดแผน อีวี ไพรมัส ที่เน้นขายรถไฟฟ้าขนาดเล็ก ยังไม่ข้ามไปสู้รุ่นใหญ่

ภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วน หรือ BEV ในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด หรือปี 2022 มียอดจดทะเบียนราว 9,700 คัน แต่ปี 2023 ถึงสิ้นเดือน ก.ย. กลับมียอดจดทะเบียนสะสมรวมถึง 50,000 คัน ผ่านผู้เล่นหลากหลายแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น

หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ Volt กับ Wuling ที่ทำตลาดโดย บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผ่านจุดขายที่แตกต่างคือ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ราคาประหยัด และมาแข่งขันกับรถยนต์กลุ่ม Eco Car แบรนด์ญี่ปุ่นโดยตรง ถือว่าแตกต่างกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่มากับขนาดใหญ่ และราคาใกล้ 1 ล้านบาท

Volt และ Wuling มีแผนเดินหน้าตลาดในประเทศไทยอย่างไร ปัญหาดราม่าเรื่องจดทะเบียนไม่ได้ยังคงมีอยู่หรือไม่ และอนาคตของทั้งสองแบรนด์จะเป็นอย่างไร พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ได้อธิบายไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

Wuling

Volt – Wuling ขอครองรถไฟฟ้าเล็ก

พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เล่าให้ฟังว่า ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยที่กำลังเติบโต ส่วนใหญ่จะมาจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่เน้นจำหน่ายรถยนต์เก๋งขนาดกลาง หรือรถ SUV ขนาดเล็ก จนเกิดการแข่งขันที่สูง สังเกตจากการปรับลดราคาของแต่ละแบรนด์อย่างต่อเนื่อง

แต่บริษัทขอเลือกไม่เข้าไปต่อสู้ในตลาดดังกล่าวผ่านการเน้นทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือขนาดใกล้เคียง Eco Car ของแบรนด์ญี่ปุ่น ผ่านแบรนด์ Volt และ Wuling เพื่อขอเป็นรถยนต์คันที่ 2 หรือ 3 ของครัวเรือนไทย และสร้างยอดขายแบบค่อย ๆ เติบโต

“เราขอครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กก่อน ผ่านราคาของ Volt ที่เริ่มต้น 3.65 แสนบาท และ Wuling ที่เริ่มต้น 4.25 แสนบาท ทั้งสองรุ่นมีราคาค่อนข้างห่างจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นในตลาดพอสมควร และพร้อมเป็นตัวเลือกของลูกค้าว่าต้องการ Eco Car น้ำมันจากญี่ปุ่น หรือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กจากจีน”

Volt City EV

ไร้ปัญหาจดทะเบียนไม่ได้ตามดราม่า

อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดตัว Volt เมื่อเดือน ส.ค. 2022 ทางบริษัทกลับเจอปัญหาผู้ซื้อไม่สามารถจดทะเบียนได้ ทำให้ต้องใช้งานด้วยป้ายแดงเป็นระยะเวลานาน แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวถูกแก้ และดีลเลอร์ต่าง ๆ ได้ทยอยแจ้งให้ผู้ซื้อนำรถยนต์ไฟฟ้า Volt ไปจดทะเบียน

“ตอนนี้ปัญหาเรื่องจดทะเบียนไม่ได้ไม่มีแล้ว ซึ่งเราก็ยอมรับผิดเรื่องนี้ และพยายามเร่งแก้ไขจนเสร็จสิ้น ซึ่งปัจจุบัน Volt มียอดจดทะเบียนแล้วราว 500 คัน จากกว่า 1,000 คัน ที่ขายได้ ส่วน Wuling มีการจดทะเบียนไปแล้วหลายร้อยคันจากยอดขายทั้งหมด 1,200 คัน”

สำหรับ Volt มีรุ่น 2 กับ 4 ประตู ทั้งคู่วิ่งได้ไกลราว 200 กม. ความเร็วสูงสุด 105 กม./ชม. ส่วน Wuling ทำตลาดในรุ่น Air EV มีรุ่นปกติ และรุ่น Long Range วิ่งได้ไกลราว 200-300 กม. ความเร็วสูงสุด 106 กม./ชม. ทั้งคู่มีขนาดใกล้เคียงกับ Nissan March และ Mitsubishi Mirage เป็นต้น

ขอเป็นรถยนต์คัน 2 หรือ 3 ของบ้าน

จากการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ทำให้ อีวี ไพรมัส ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เป็นคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้าน ผ่านความสะดวกในการใช้งาน แต่อาจไม่ตอบโจทย์หากต้องวิ่งในระยะไกล โดยหลังจากนี้บริษัทมีแผนนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ของแบรนด์ Wuling มาทำตลาดเพิ่มเติม

“ผมมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าปี 2023 จะมียอดจดทะเบียนราว 80,000 คัน แต่เราอยากมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ราว 15% ซึ่งตอนนี้ยังมีไม่มากนัก จึงไม่แปลกที่ในอนาคตบริษัทจะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ของ Wuling เข้ามาทำตลาดเพิ่ม เช่น รุ่น Bingo และ Yep รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่กว่าที่กำลังทำตลาดอยู่”

ปัจจุบัน อีวี ไพรมัส มีการลงทุนราว 200 ล้านบาท เพื่อขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Wuling โดยเน้นเป็นการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และอยู่ระหว่างศึกษาการส่งออกไปในตลาดอื่นเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคตเช่นกัน

Wuling
ชุดแต่งของ Wuling Air EV

อยู่กับ Featherweight ไม่ขอขยับรุ่น

แม้ในอนาคตจะมีการนำรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่กว่าที่กำลังทำตลาดอยู่เล็กน้อย แต่ อีวี ไพรมัส ย้ำว่า ยังขอคงจุดเด่นเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก และไม่ขอลงไปแข่งขันเรื่องราคาเหมือนกับสมรภูมิรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันที่ทุกรายต่างลดราคาเพื่อดึงลูกค้า

“จริง ๆ ผมมองว่าไม่ต้องทำ Price War กันก็ได้ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าจีนสเปกก็ดี คนก็ต้องการ แถมของก็ขาด แทบไม่มีปัจจัยที่ต้องทำราคาแข่งขัน แต่เรื่องการลดราคาก็กระทบเราเหมือนกัน ดังนั้น อีวี ไพรมัส ต้องทำราคารถยนต์ไฟฟ้าเล็กให้เล็กจริง ๆ และขออยู่แค่ Featherweight ไม่ขอขยับรุ่นไปแข่ง”

หากนิยามรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก พิทยา ชี้ว่าคล้ายกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีราคาสูงที่สุดในบ้าน โดย อีวี ไพรมัส มีโชว์รูม และศูนย์บริการ 32 แห่ง ทั่วประเทศ ยังไม่มีในหัวเมืองใหญ่ เช่น พัทยา, ชลบุรี และภูเก็ต โดยบริษัทตั้งเป้ามีศูนย์บริการราว 40 แห่ง ใน 30 จังหวัดของประเทศไทยภายในปี 2024

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา