รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มถูกให้ความสนใจมากขึ้น แถมมีการสนับสนุนจากรัฐบาลทำให้ราคาถูกลง แต่เชื่อว่ามีหลายคนไม่อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพราะเสียดายรถคันเดิมที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง
ปัญหาดังกล่าวจะหมดไป เพราะตอนนี้ทุกคนสามารถแปลงรถยนต์น้ำมัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้ว ผ่านบริการของ อีวี คาร์ ไทยแลนด์ แถมราคาค่าบริการยังเอื้อมถึงไม่ยาก เพราะเริ่มต้นที่ 3.5 แสนบาท
จุดเริ่มต้นของ อีวี คาร์ ไทยแลนด์ มาจากไหน และอนาคตของบริการรับแปลงรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ ไพศาล ตั่งยะฤทธิ์ ผู้ก่อตั้งกิจการ อีวี คาร์ ไทยแลนด์ ดังนี้
จากซ่อมระบบไฟ สู่แปลงรถยนต์ไฟฟ้า
ไพศาล เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของธุรกิจ อีวี คาร์ ไทยแลนด์ ต้องย้อนไปเกือบ 30 ปีก่อน โดยเวลานั้นได้เปิดหน้าร้านรับซ่อมระบบไฟฟ้าของรถยนต์ เนื่องจากเรียนจบทางด้านนี้มา หลังจากนั้นเริ่มขยายไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการทำท่อ หรือดัดแปลงเครื่องยนต์
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ราคาน้ำมันสูงขึ้น ทำให้กระแสการติดแก๊สในรถยนต์เริ่มเติบโต และบริษัทมีการเข้าไปให้บริการเรื่องดังกล่าวเช่นกัน แต่เวลานั้นในระดับโลกเริ่มมีการพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นด้วย ทำให้บริษัทเริ่มต้นศึกษาเรื่องนี้ก่อนที่จะมาเปลี่ยนธุรกิจอีกครั้งเป็นการรับแปลงรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
“ผมเริ่มจริงจังกับการเดินหน้ารับแปลงรถยนต์ไฟฟ้ามาเกือบ 10 ปี ผ่านการนำรถยนต์รุ่นเก่ามาดัดแปลงให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า อาศัยอุปกรณ์จากจีนที่เราสั่งทำพิเศษ และการเรียนรู้ด้วยตัวเองจนสร้างออกมาสำเร็จ ชาร์จได้ทั้งจากไฟบ้าน และตู้ชาร์จประสิทธิภาพสูงในที่ต่าง ๆ”
กำเงินมา 3.5 แสนบาท ก็ได้รถยนต์ไฟฟ้า
จากจุดเริ่มต้นดังกล่าว ปัจจุบัน อีวี คาร์ ไทยแลนด์ สามารถแปลงยานพาหนะต่าง ๆ ที่ใช้แรงคน หรือน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง เรียกว่าตั้งแต่จักรยานคันเล็ก ๆ ,จักรยานยนต์, รถยนต์ และรถเพื่อการพาณิชย์รูปแบบต่าง ๆ โดยราคาเริ่มต้นของการแปลงในกลุ่มรถยนต์จะเริ่มต้นที่ 3.5 แสนบาท
“3.5 แสนบาท จะสามารถแปลงรถยนต์เครื่องขนาด 1,500 ซีซี เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มระบบ กล่าวคือยกเครื่องยนต์เดิมออก ติดตั้งแบตเตอรี่ และมอเตอร์ รวมถึงชิ้นส่วนในการส่งกำลังต่าง ๆ และการดัดแปลงโครงสร้างบางส่วน กับภายในที่ต้องแสดงผลเกี่ยวกับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า”
ทั้งนี้การดัดแปลงจะใช้เวลาราว 3-4 เดือน และตัวรถยนต์สามารถจดทะเบียนตามข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบกได้ และทาง อีวี คาร์ ไทยแลนด์ มีรับประกันตัวรถยนต์ดัดแปลงเป็นเวลา 1 ปี ส่วนถ้ารถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า 1,500 ซีซี จะมีค่าใช้จ่าย และช่วงเวลาดัดแปลงที่มากกว่า สูงสุดอาจเป็นหลักล้านบาท และใช้เวลาเป็นปี
หวังภาครัฐผลักดันการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า
ในทางกลับกัน ไพศาล มองว่า หน่วยงานรัฐยังให้การสนับสนุนแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นการซื้อรถยนต์คันใหม่ มากกว่าการกระตุ้นให้เกิดการดัดแปลงรถยนต์น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างประโยชน์ให้ฝั่งแบรนด์ผู้ผลิตมากกว่าผู้บริโภค
“ถ้าเขาสนับสนุนแต่ฝั่งแบรนด์ผู้ผลิต ผู้ผลิตขายรถยนต์ได้มากขึ้น กำไรก็อยู่ที่พวกเขา รถยนต์น้ำมันคันเดิมก็ไม่ไปไหน ถูกจอดทิ้งไว้สักที่หนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้มันน่าจะดีกว่าถ้ารัฐเข้ามาสนับสนุนให้คนเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้นด้วยการจูงใจให้พวกเขาเอารถยนต์น้ำมันคันเดิมมาเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า เพราะราคาถูกกว่า และรถยนต์ยังถูกใช้งาน”
ปัจจุบัน อีวี คาร์ ไทยแลนด์ มีการเข้าไปหารือ และให้คำปรึกษากับภาครัฐเกี่ยวกับแนวทางการดัดแปลงรถยนต์น้ำมัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังเริ่มมีบริษัทอื่นทำธุรกิจดัดแปลงรถยนต์น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นในไทย แสดงให้เห็นถึงความสนใจในเรื่องนี้ของฝั่งผู้บริโภคเช่นกัน
ก้าวไกลสู่ระดับชาติ ยกระดับกำลังการผลิต
สำหรับเป้าหมายในอนาคตของ อีวี คาร์ ไทยแลนด์ ไพาศาล มองว่า บริษัทต้องการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น เช่น การลดอัตราภาษีนำเข้าชิ้นส่วนต่าง ๆ ในการดัดแปลง รวมถึงลดขั้นตอนการตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้าที่ดัดแปลง เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าได้ดีขึ้น
“ตอนนี้เราผลิตได้เดือนละ 3 คัน ถ้าทุกอย่างมันเอื้อมากขึ้น เราก็อยากยกกำลังการผลิตได้เป็น 30 คัน และกลายเป็นผู้เล่นรายสำคัญในระดับชาติ ช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่ประเทศไร้มลพิษด้วยการดัดแปลงรถยนต์น้ำมันคันเก่าให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด”
เป้าหมายดังกล่าวแม้จะดูไกล และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่ความตั้งใจของ ไพศาล ในการขับเคลื่อนตลาดนี้ แถมเริ่มทุกอย่างด้วยตัวเอง ก็น่าสนใจว่ากระแสการดัดแปลงรถยนต์น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะเกิดขึ้นมากแค่ไหน และจะถูกให้ความสำคัญจากภาครัฐมากขึ้นหรือไม่
อ้างอิง // EV Car Thailand
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา