ผู้บริโภคอาจมองหารถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะเมื่อจบ COVID-19 ทุกคนจะดูแลสุขภาพมากกว่าเดิม

โรค COVID-19 ทำอุตสาหกรรมรถยนต์ปั่นป่วน แต่มันก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง เพราะผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ Jaguar มองว่า เมื่อจบ COVID-19 ทุกคนจะรักษาสุขภาพมากขึ้น ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็ว

Jaguar
Jaguar I-Pace

รถยนต์ไฟฟ้าเติบโต และการออกแบบที่เปลี่ยนไป

ในอดีตการจะซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง ผู้บริโภคอาจมองเรื่องสมรรถนะ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แต่ด้วยการระบาดของโรค COVID-19 ผู้บริโภคก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และรักษาสุขภาพมากกว่าเดิม จุดนี้เองจึงเป็นโอกาสที่แบรนด์รถยนต์ต่างๆ จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าง่ายขึ้น

Julian Thomson ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ Jaguar เล่าให้ฟังว่า รถยนต์ไฟฟ้าไม่ปล่อยมลพิษใดๆ ออกมา ทำให้ผู้บริโภคที่เริ่มใส่ใจสุขภาพมากกว่าในอดีตจึงน่าจะตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างรักษาสุขภาพให้ได้ดีที่สุด

ขณะเดียวกันการออกแบบรถยนต์ในช่วงวิกฤต COVID-19 ก็ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะปกติแล้วทีมงานออกแบบรถยนต์จะมีสตูดิโอขนาดใหญ่ พร้อมแบบรถยนต์ที่ขึ้นรูปด้วยดินเหนียว แต่ตอนนี้ทุกอย่างต้องทำที่บ้าน และเห็นแค่โมเดล 3 มิติในหน้าจอเท่านั้น

ทำให้อนาคตของการออกแบบรถยนต์หลังจากนี้น่าจะเปลี่ยนไปไม่น้อย ทั้งการสร้างระบบสื่อสาร และวิธีทำให้ทีมงานสามารถเห็นสิ่งที่ออกแบบได้เทียบเท่ากับของจริงให้มากที่สุด เช่น Jaguar มีทีมงานออกแบบ 300 คน ใช้ห้องพื้นที่ 12,000 ตร.ม. มีเครื่องมือ VR และหน้าจอกว้าง 11 ม. ความละเอียด 4K เพื่อออกแบบให้ดีที่สุด

สรุป

ภาพอุตสาหกรรมรถยนต์หลังจาก COVID-19 ผ่านพ้นจะเปลี่ยนไปหลายเรื่องแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเรื่องระบบไลน์ผลิต, การขายรถยนต์ที่รักษาสุขภาพ รวมถึงการดูแลเรื่องงานออกแบบ แต่ทุกอย่างก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นอีก

อ้างอิง // ArsTechnica

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา