Epson ผนวกแนวคิดนวัตกรรมเทคโนโลยี ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อม สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน

ขณะที่การพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ธุรกิจไม่เคยหยุดนิ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ต้องไม่ลืมการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันตอกย้ำให้เห็นว่า เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกองค์กรธุรกิจต้องร่วมกันใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้พลังงาน การรีไซเคิลกระดาษเพื่อลดการตัดไม้ การลดการสร้างมลพิษทั้งทางอากาศ น้ำ หรือลดขยะจากกระบวนการผลิต 

เทคโนโลยีของเอปสันจึงถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นบนหลักการที่ว่า จะต้องสามารถนำเสนอประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมให้กับผู้ใช้ สามารถรองรับปริมาณงานจำนวนมากเป็นเวลานาน โดยที่คุณภาพงานไม่ตกลง และต้องไม่สร้างผลกระทบใดๆ ต่อสภาพแวดล้อมในที่ทำงานของผู้ใช้และสังคม ผลิตภัณฑ์ของเอปสันจึงต้องสามารถช่วยองค์กรธุรกิจลดการใช้พลังงานในสำนักงาน และสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรกับธรรมชาติให้เห็นได้เป็นรูปธรรม

ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด

ตัวอย่างของเทคโนโลยีที่สร้างความตื่นตาให้กับวงการพิมพ์ก็คือ Epson PaperLab ซึ่งเป็นเครื่องรีไซเคิลกระดาษเครื่องแรกของโลก ช่วยให้ทุกออฟฟิศประหยัดค่ากระดาษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพียงนำกระดาษที่ใช้แล้วใส่เข้าไปใน Epson PaperLab ก็จะได้กระดาษใหม่ออกมาในไม่กี่นาที ซึ่งทุกขั้นตอนจะทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ซับซ้อน และไม่ต้องใช้น้ำเป็นองค์ประกอบในกระบวนการผสานเยื่อกระดาษใหม่

อีกหนึ่งตัวอย่าง คือ เครื่องอิงค์เจ็ทพรินเตอร์รุ่นใหม่ ที่ไม่ใช้ความร้อนในกระบวนการพิมพ์ (Heat-Free) และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ถึง 85% รวมไปถึงชิ้นส่วนในตัวพรินเตอร์เอง อิงค์เจ็ทพรินเตอร์ของเอปสันก็ยังมีส่วนประกอบที่ต้องเปลี่ยนทดแทนน้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ถึง 59% เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งโทนเนอร์ ลูกดรัม ดีเวลลอปเปอร์โรเลอร์ ชุดฟิวเซอร์ และอื่นๆ ทำให้ช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงมาได้ 

Epson SureColor SC-F2130

รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรินเตอร์เชิงพาณิชย์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอของเอปสัน ที่ถูกออกแบบให้ลดการใช้น้ำในกระบวนการพิมพ์ลงถึง 60% ทำให้ไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากสารเคมี และยังลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มากถึง 55% อีกด้วย

สอดรับกับนโยบายของบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ที่ประกาศวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทเอปสันในงาน Epson 25 Corporate Vision เมื่อปี 2559 ไว้ว่า เอปสันต้องการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน และต้องแสดงถึงความรับผิดชอบในการส่งเสริมความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น และนำความสุขมาสู่สังคมด้วยวิธีการที่ยั่งยืน  ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDG) ขององค์การสหประชาชาติ เพราะทุกวันนี้ ความคาดหวังของคนทั่วโลกต่อองค์กรธุรกิจให้ดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงการเติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนกำลังทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

นายยรรยง กล่าวถึงเป้าหมายของกิจกรรม CSR ของเอปสัน ประเทศไทย ได้ยึดตามกรอบปฏิบัติของ SDG โดยให้น้ำหนักในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของทรัพยากรมนุษย์และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ล่าสุดทางเอปสัน ได้ร่วมกับ ผศ.ดร.เวชสวรรค์ หล้ากาศ และโครงการ Green Road ในการผลิตถุงผ้าจากวัสดุรีไซเคิล เพื่อนำไปแลกถุงพลาสติกจากเหล่าพนักงานบริษัทตามอาคารสำนักงานทั่วกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “From Plastic to Fabric” ทั้งยังเป็นการขานรับนโยบายงดใช้ถุงพลาสติกตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ออกกฎบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา

ผศ.ดร.เวชสวรรค์ หล้ากาศ

เอปสันได้กระจายไปยังอาคารสำนักงาน 10 แห่งทั่วกรุงเทพ นำถุงผ้ารักษ์โลก ที่พิมพ์ลายด้วย Epson SureColor SC-F2130 พรินเตอร์ระบบ Direct-to-Garment สำหรับงานสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายและสินค้าแฟชั่น ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore หนึ่งในผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรินเตอร์เชิงพาณิชย์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากสารเคมีในขณะพิมพ์  ได้รับความสนใจอย่างมาก และสามารถรวบรวมถุงพลาสติกได้มากถึงกว่า 30,000 ใบ

สำหรับถุงพลาสติกที่รวบรวมมาได้ถูกส่งต่อให้โครงการ Green Road เป็นผู้คัดแยกและแปลงสภาพเป็นอิฐบล็อก เพื่อใช้ปูพื้นลานกิจกรรมและทางเดิน ภายในวัดต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์ของผู้คนในชุมชนต่อไป

“บล็อกปูพื้นที่ได้จากการรีไซเคิลถุงและขวดพลาสติก มีความแข็งแรงได้มาตรฐาน รับแรงสั่นสะเทือนได้ดี มีน้ำหนักเบา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ที่สำคัญเป็นวิธีการกำจัดขยะพลาสติกในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ เอปสันจึงมองว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อสังคมไทยในขณะนี้ และสอดคล้องกับแนวทางซีเอสอาร์ของบริษัทฯ และจากกิจกรรมครั้งนี้ ยังเห็นได้ชัดว่าคนกรุงเทพฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคมไทยกันมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นการตอกย้ำถึงจุดยืนและแนวทางในการดำเนินธุรกิจของเอปสันได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบัน ไม่มีองค์กรธุรกิจใดสามารถเติบโตขึ้นโดยไม่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม การผสานจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้ากับการพัฒนานวัตกรรมและธุรกิจที่เอปสันยึดมั่น จึงเป็นคำตอบการอยู่รอดและเจริญก้าวหน้าในโลกยุคดิจิทัลนี้” ยรรยง กล่าว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา