เจาะลึกการเลิกทำตลาดพรินเตอร์เลเซอร์ของ Epson ภายในปี 2023 ดันอิงค์เจ็ททดแทน คุณภาพดีกว่า ลดใช้พลังงาน ดีต่อสิ่งแวดล้อม

Epson เป็นผู้นำในตลาดพรินเตอร์อิงค์เจ็ท มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพด้านการพิมพ์ ความเร็วในการพิมพ์ เช่น การพิมพ์ด้วยหมึกกันน้ำ หรือการพิมพ์แบบอิงค์แทงก์ที่ประหยัดยิ่งกว่า รวมถึงการพัฒนาตัวเครื่องที่ประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยี Heat-Free และการดูแลเรื่องการบำรุงรักษาและซัพพลายต่างๆ

Epson1

แต่การประกาศยกเลิกการทำตลาดพรินเตอร์เลเซอร์ในไทยภายในปี 2023 และทั่วโลกภายในปี 2026 ถือเป็นความท้าทายและกล้าหาญอย่างมากของ Epson หลายคนโดยเฉพาะผู้ใช้เกิดคำถามทันทีว่า อิงค์เจ็ทดีกว่าเลเซอร์อย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ใช้งานมีความพร้อมหรือรับรู้เรื่องเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน

นโยบายระดับโลกชัดเจน ลดการปล่อยก๊าซ ลดการใช้พลังงาน

Epson2

จุนคิชิ โยชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจเครื่องพิมพ์ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เอปสันเผยวิสัยทัศน์ Epson 25 Renewed ตั้งเป้า ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นลบในปี 2050 และได้นำเสนอเทคโนโลยี Heat-Free ที่เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์แบบไม่ใช้ความร้อน เพื่อช่วยลดการปลดปล่อยความร้อนรวมถึงก๊าซคาร์บอนฯ ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานในสำนักงานได้อีกด้วย

Epson3

ซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค เอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กล่าวว่า พรินเตอร์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจของเอปสันเปรียบเทียบกับพรินเตอร์เลเซอร์ ประหยัดพลังงาน 85% เพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้กับลูกค้า ทั้งยังมีชิ้นส่วนประกอบภายในเครื่องน้อยกว่า ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์น้อยลง การบำรุงรักษาก็ง่ายและคุ้มค่ากว่า และปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ น้อยกว่าด้วย

ดังนั้น Epson จึงประกาศยุติการจำหน่ายและกระจายสินค้าพรินเตอร์เลเซอร์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในสิ้นเดือนธันวาคมปี 2023 และยุติการจำหน่ายและกระจายสินค้า ทั่วโลกภายในสิ้นเดือนธันวาคมปี 2026

นี่เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ด้วยความมั่นใจในเทคโนโลยี คุณภาพสินค้าและบริการ ทำให้ Epson เชื่อมั่นว่า นี่เป็นโอกาสสำคัญและช่วงเวลาที่ถูกต้อง

Epson4

ลบความเข้าใจเดิมที่บอกว่า พรินเตอร์เลเซอร์ดีกว่า

ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การรับรู้ของผู้ใช้งานยังติดกับภาพเดิมในอดีตที่ว่า พรินเตอร์เลเซอร์ดีกว่า ซึ่งต้องบอกว่า ไม่เป็นความจริง โดยอิงค์เจ็ทของ Epson ได้รับการพัฒนาจนมีคุณภาพเทียบเท่าหรือสูงกว่ามาหลายปีแล้ว อยากให้ผู้ใช้เปิดใจและลองทดสอบดูได้ ยิ่งกว่านั้น Epson เชื่อมั่นว่าอิงค์เจ็ทยังพัฒนาต่อไปได้อีกมากในอนาคต

อันดับแรกที่ผู้ใช้จะเปรียบเทียบคือราคา เมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่นที่ความเร็วในการพิมพ์ที่เท่ากัน ราคาพรินเตอร์อิงค์เจ็ท อาจจะสูงกว่าพรินเตอร์เลเซอร์ แต่ไม่มีใครที่ซื้อพรินเตอร์มาใช้ครั้งเดียว ถ้ามีการใช้งานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หรือมีการเปลี่ยนหมึกพิมพ์ ก็จะรู้ทันทีว่าเมื่อพิจารณาต้นทุนทั้งหมดแล้ว อิงค์เจ็ท คุ้มค่ากว่าแน่นอน

เมื่อเปรียบเทียบที่ความเร็วในการพิมพ์ อิงค์เจ็ทสามารถเริ่มพิมพ์ได้ทันที ด้วยเทคโนโลยี Heat-Free ไม่ใช้ความร้อนในกระบวนการพิมพ์ และยังมีหลากหลายรุ่นให้เลือกตามความเร็วที่ต้องการ เรียกว่าไม่แตกต่างจากพรินเตอร์เลเซอร์ในเรื่องของความเร็ว แต่กลับดีกว่าด้วย เพราะเมื่อไม่ใช้ความร้อน ทำให้ประหยัดพลังงานกว่าพรินเตอร์เลเซอร์ 85% และเมื่อไม่ใช้ความร้อน ตัวเครื่องจึงใช้ชิ้นส่วนที่น้อยกว่า 59% เมื่อเทียบกับพรินเตอร์เลเซอร์

สรุปแล้ว พรินเตอร์อิงค์เจ็ท ให้คุณภาพงานที่ดีกว่า พิมพ์ออกมาสวยกว่า หมึกกันน้ำได้ มีความเร็วในการพิมพ์ที่เร็วกว่า และยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

Epson5

Epson กับความพร้อมในการผลักดันอิงค์เจ็ทแบบเต็มสูบ

ยรรยง กล่าวว่า การประกาศเลิกทำตลาดพรินเตอร์เลเซอร์ภายในสิ้นธันวาคม 2023 มีการเตรียมความพร้อมโดยพัฒนาเครื่องพรินเตอร์ให้ครบตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ระดับกลางจนถึงระดับสูง ตั้งแต่ระดับความเร็ว 24 หน้าต่อนาที ไปจนถึง 100 หน้าต่อนาที ทั้งแบบขาวดำและสี ให้สามารถทดแทนพรินเตอร์เลเซอร์ได้ทั้งหมด

สำหรับ Epson WorkForce Enterprise AM-Series ที่เปิดตัวในวันนี้ เป็นเครื่องระดับกลาง ความเร็วขนาด 40-60 หน้าต่อนาที เหมาะกับสำนักงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการพิมพ์ต่อเดือนประมาณ 10,000-20,000 แผ่น ซึ่งการเปิดตัวในวันนี้ ทำให้ Epson สามารถครอบคลุมความต้องการใช้งานขององค์กรธุรกิจได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น

“Epson WorkForce Enterprise AM-Series ทั้ง 3 รุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ จะทำให้ไลน์สินค้า พรินเตอร์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจของเอปสันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสามารถแข่งขันกับพรินเตอร์เลเซอร์ และในตลาดเครื่องถ่ายเอกสารได้อย่างทัดเทียมยิ่งขึ้น โดยในตลาดองค์กรธุรกิจ เครื่องพิมพ์ที่ความเร็วการพิมพ์ระดับ 31- 60 หน้าต่อนาที เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเครื่องพิมพ์ AM-Series ที่ได้รับการออกแบบใหม่นี้ ยังช่วยตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของเอปสันในการที่จะก้าวต่อไป ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์อิงค์เจ็ท ที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรของลูกค้าเอปสันได้ดีกว่า ด้วยความเร็วและคุณภาพงานพิมพ์ และความคุ้มค่าในการลงทุน”

Epson6

กลยุทธ์สำคัญคือ จะนำเสนอเครื่องพรินเตอร์อิงค์เจ็ทเพื่อทดแทนให้กับลูกค้าของ Epson ที่ใช้งานพรินเตอร์เลเซอร์อยู่ รวมถึงผู้ใช้งานทั่วไปที่ใช้งานพรินเตอร์เลเซอร์อื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าของ Epson ที่ใช้งานพรินเตอร์เลเซอร์อยู่แล้วยังคงได้รับบริการหลังการขายอย่างดีที่สุดจากทีมงานของ Epson พร้อมด้วยบริการอะไหล่สำหรับตัวเครื่องอีก 6 ปี และซัพพลายต่างๆ อีก 7 ปี นับจากการเลิกทำตลาดในธันวาคม 2023

สรุป

Epson มีการพัฒนาเทคโนโลยีพรินเตอร์อิงค์เจ็ทมาโดยตลอด และนี่คือก้าวสำคัญอีกครั้งของ Epson ที่ประกาศอย่างมั่นใจว่าเทคโนโลยีอิงค์เจ็ทนั้นเทียบเท่าและสามารถทดแทนการใช้งานเครื่องพิมพ์เลเซอร์ได้อย่างดี พร้อมให้ทุกคนได้ทดลองใช้งาน เพื่อเปรียบเทียบจากประสบการณ์ตรง สิ่งที่เหนือกว่าของอิงค์เจ็ทคือต้นทุนรวมการเป็นเจ้าของ Total Cost of Ownership หรือ TCO ที่ดีกว่าในระยะยาว เมื่อใช้งานไปจนถึงระยะเวลาหนึ่งจะทำให้มีต้นทุนต่ำกว่าการใช้งานเครื่องเลเซอร์ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการลดการใช้พลังงานและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจยุคใหม่ที่ทุกๆ องค์กรต่างหันมาให้ความสำคัญ

 

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา