Epson ยกทัพเปิดตัวเครื่องพิมพ์หน้ากว้างรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา (Signage), กลุ่มเครื่องพิมพ์
สิ่งทอ (Graphic Textile) และกลุ่มเครื่องพิมพ์ภาพถ่าย (Photographic) อัปเกรดสเปคเข้าสู่ระบบยุคดิจิทัลในอุตสาหกรรมการพิมพ์เต็มรูปแบบ สะท้อนความสำเร็จและการยอมรับของผู้ประกอบการ ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมปี 2567 สูงถึง 28%

ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า หลังจากเอปสันขึ้นมาครองส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มเครื่องเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในปีที่ผ่านมาสูงถึง 28% นั้น สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับจากผู้ประกอบการที่ยอมรับในคุณภาพ ตอบโจทย์ ต่อยอดธุรกิจของลูกค้า ทั้งกลุ่มที่เริ่มปรับใช้ระบบดิจิทัล และกลุ่มที่ยังใช้ระบบดั้งเดิม ผ่านการผสานเทคโนโลยีการพิมพ์ ซอฟต์แวร์ การบริการ และโมเดลธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร ทำให้ เอปสันมีฐานลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่โรงงานสิ่งทอ ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ นักออกแบบ แบรนด์สินค้า ไปจนถึงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นธุรกิจการพิมพ์แบบออนดีมานด์
สำหรับเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของเอปสันแบ่งออกเป็นสามกลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา (Signage) มีส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับหนึ่งที่ 30% ครอบคลุมเครื่องพิมพ์ในระบบหมึก Eco Solvent, Solvent และ Latex ในส่วนเครื่องพิมพ์สิ่งทอ (Graphic Textile) เอปสันเป็นแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุด ครองส่วนแบ่ง 30% ของตลาด เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องพิมพ์ภาพถ่าย (Photographic) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 32%
สำหรับการเติบโตของกลุ่มเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในปีนี้นั้น ยรรยง มองว่ายังเป็นปีที่มีโอกาสในการเติบโตอยู่ในระดับ 8-10% จากเดิม 20% ขึ้นไปหากไม่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ สงครามทางการค้า รวมไปถึงปัญหาชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
“การที่เราเปิดตัวเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ เป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเร่งการเปลี่ยนแปลงเครื่องพิมพ์จากระบบเก่าให้เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ ด้วยความสามารถของเครื่องที่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์สติ๊กเกอร์ขนาดเล็ก รวมไปถึงป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ จะดีในเรื่องของต้นทุน คุณภาพการพิมพ์ รวมไปถึงบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์มากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด และยิ่งไปกว่านั้น เรายังได้ร่วมมือกับตัวแทนจำหน่าย ในการให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการสำหรับเครื่องพิมพ์ที่มีมูลค่าสูง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจสามารถประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นอีกด้วย”

สำหรับกลุ่มเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมสิ่งทอ เอปสันเป็นแบรนด์เดียวในตลาดที่มีเครื่องพิมพ์หน้ากว้างครอบคลุมทุกกลุ่มการใช้งานในอุตสาหกรรมงานพิมพ์เพื่อสิ่งทอ ทั้งกลุ่ม Dye Sublimation สำหรับงานบนผ้าโพลีเอสเตอร์ เช่น เสื้อกีฬาและแฟชั่น กลุ่ม Direct-to-Garment สำหรับพิมพ์ตรงลงบนผ้าฝ้ายโดยยังคงเนื้อสัมผัสเดิมของผ้า และล่าสุดคือ Direct-to-Film (DTFilm) ที่เติมเต็มพอร์ตสินค้าอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความยืดหยุ่นสูงในการพิมพ์ลงบนฟิล์มก่อนนำไปถ่ายโอนบนวัสดุหลากชนิด เหมาะกับสินค้ากลุ่มเสื้อยืด รองเท้า ถุงผ้า และของที่ระลึก
“Epson SureColor SC-G6030 เครื่องพิมพ์ระบบ DTFilm รุ่นแรกของบริษัทในกลุ่มเครื่องพิมพ์สิ่งทอ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ทั้งเรื่องของหัวพิมพ์ หมึก ทำให้เราสามารถนำเทคโนโลยี Direct-to-Film (DTFilm) พิมพ์ภาพที่ต้องการลงบนฟิล์มก่อนนำไปเข้าเครื่องรีดร้อน ตัวลายพิมพ์ที่ลงบนตัวผ้าจะทนติดอย่างแน่นหนา ลายภาพที่มีขนาดประมาณ A4 เราทำต้นทุนต่อภาพได้เพียง 6 บาทเท่านั้น จึงเปิดโอกาสใหม่ของผู้ประกอบการในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการ แบรนด์แฟชั่น นักออกแบบที่เน้นงานเฉพาะตัว หรือแม้แต่โรงพิมพ์ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพการผลิตแบบสั่งทำเฉพาะ (on-demand)”

ในกลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา ทางเอปสันได้เปิดตัว SureColor SC-S9130, SC-S8130 และ SC-S7130 เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง 64 นิ้ว ระบบ Eco Solvent ที่พิมพ์ได้ทั้งงานภายในและนอกอาคาร ทั้งสามรุ่นได้รับการอัปเกรดด้วยหัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP รุ่นใหม่ ช่วยให้พิมพ์งานได้เร็วยิ่งขึ้นมี Nozzle Verification Technology เพื่อตรวจจับหัวพิมพ์อุดตันและปรับคุณภาพการพิมพ์อัตโนมัติ ทั้งยังมีโหมด Text Sharpness สำหรับพิมพ์ตัวอักษรขนาดเล็กได้คมชัดสุดถึง 3 พอยต์ และใช้หมึก UltraChrome GS3 ซึ่งผ่านการรับรอง Greenguard Gold มั่นใจได้ทั้งด้านความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“ปัจจุบัน ผู้ให้บริการงานพิมพ์ ผู้ผลิตป้ายโฆษณา รวมถึงนักออกแบบ ต่างมองหาโซลูชันที่มากกว่าแค่เครื่องพิมพ์ แต่ต้องการเครื่องมือที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต เครื่องพิมพ์กลุ่ม SureColor ของเอปสัน ทั้งในกลุ่มงานพิมพ์ป้ายและสิ่งทอ จึงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีทางเลือกครบกับทุกความต้องของลูกค้ายุคใหม่ ทั้งในด้านประเภทแอปพลิเคชันที่หลากหลาย รองรับงานออกแบบที่ไม่จำกัด ช่วยให้ลูกค้าสามารถผลิตงานตามออเดอร์ขนาดเล็กได้อย่างคุ้มค่า พร้อมการใช้งานที่ง่ายดายและการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ช่วยลดต้นทุนแรงงาน โดยไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานที่มีทักษะสูงในการควบคุมเครื่อง ทั้งยังมีรอบการผลิตที่รวดเร็ว ตอบสนองตลาดได้ทันเวลา และที่สำคัญ เครื่องพิมพ์ของเอปสันยังออกแบบมาโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทั้งในแง่ของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสีย และเลือกใช้หมึกที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามขีดจำกัดด้านความคิดสร้างสรรค์ คว้าโอกาสใหม่ทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมแลสิ่งแวดล้อม” นายยรรยง กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา