จากอินเดีย ถึงไทย กับปัญหาเงินนอกระบบ และการยกเลิกธนบัตรช่วยจริงหรือ

สืบเนื่องจากวันอังคารที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดีย นเรนทรา โมดี ประกาศยกเลิกธนบัตรมูลค่า 500 กับ 1,000 รูปี (ราว 260 กับ 530 บาท) เพื่อขจัดปัญหาเงินนอกระบบ เล่นเอาคนในประเทศป่วนไปตามๆ กัน เพราะคนอินเดียจะใช้จ่ายด้วยเงินสด และธนบัตรทั้งสองฉบับที่ถูกยกเลิกก็ใช้กันเกิน 80% ของมูลค่าทั้งหมด

หักดิบเงินนอกระบบ ขจัดปัญหาคนจน

อรุณ เจตเล่ย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า คนที่ทำงานอย่างหาเงินอย่างสุจริตจะไม่กังวลกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะทางภาครัฐได้ออกธนบัตรชุดใหม่มูลค่า 500 กับ 2,000 รูปี (ราว 1,050 บาท) มารองรับพวกเขาให้นำธนบัตรชุดเก่ามาแลกเปลี่ยน ดังนั้นคนสุจริตก็จะถอนเงินที่ฝากไว้ในธนาคาร หรือเก็บไว้ที่บ้าน มาแลกเปลี่ยนยังพื้นที่ที่กำหนดไว้

แต่การนำธนบัตรมาแลกเปลี่ยนนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะเก็บข้อมูลไว้ว่าแต่ละคนนำเงินมูลค่าเท่าไหร่มาแลก เพื่อเป็นหลักฐานในการเก็บภาษีต่อไป เนื่องจากที่อินเดียมีคนหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนมาก ที่สำคัญการหักดิบครั้งนี้ยังตีกรอบระยะเวลาแลกเปลี่ยนแค่ 10 พ.ย. – 30 ธ.ค. หรือ 50 วัน ซึ่งถือว่าสั้นมาก ที่สำคัญเหตุการณ์นี้ยังประกาศอย่างฉับพลัน ไม่มีใครรู้มาก่อนนอกจากทีมงานที่ดูแลเรื่องนี้

ถ้าไม่เอาจริง ยังไงก็ยังมีคอรัปชั่น

อย่างไรก็ตามด้วยธนบัตร 500 และ 1,000 รูปี เป็นธนบัตรมูลค่าสูงสุดที่ใช้งานอยู่ ในสนามบิน, สถานีรถไฟ และโรงพยาบาลจะรับธนบัตรดังกล่าวจนถึงวันที่ 11 พ.ย. แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความโกลาหลให้กับประชากรที่อาศัยอยู่ในอินเดียเป็นอย่างมาก เพราะต้องไปต่อคิวแลกธนบัตร รวมถึงถอนธนบัตรมูลค่าดังกล่าวจากตู้เอทีเอ็ม หรือธนาคารเป็นจำนวนมาก แม้ช่วงเวลานั้นธนบัตรทั้งสองจะถูกกฎหมายอยู่ก็ตาม

ในทางกลับกันการหักดิบก็คงไม่ช่วยอะไรถ้าหน่วยงานรัฐไม่เอาจริงกับผู้ที่ถือเงินสกปรก หรือเงินที่ได้จากการทุจริตเหล่านี้ไว้ จนสุดท้ายประชาชนตาดำๆ ก็ต้องทนกับความลำบาก และดิ้นรนนำธนบัตรไปแลกแทน ซึ่งทีมงาน Brand Inside คาดว่าจะมีผู้ที่ถือเงินสดมูลค่า 500 และ 1,000 รูปี สามารถเล็ดรอดจากการตรวจสอบของรัฐ และสามารถนำเงินที่มีอยู่ในมือไปฟอกให้สะอาดก่อนนำธนบัตรรุ่นใหม่มาเก็บไว้เหมือนเดิม

สมมติถ้าเกิดในไทย จะเป็นอย่างไรล่ะ

คงเป็นการยากที่เหตุการณ์นี้จะเกิดในประเทศไทย เพราะถึงเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรไปอย่างไร ก็ใช้กันมาต่อเนื่อง 20 – 30 ปีได้ ดังนั้นถ้าจะมีการยกเลิกธนบัตรใบใดใบหนึ่ง ก็คงป่วนไม่แพ้กับที่อินเดีย และก็คงเห็นคนมีสี หรืออดีตรัฐมนตรีที่แอบเก็บเงินสดไว้ในบ้านออกมาเต้นกันบ้าง ส่วนคนในฝั่งรัฐบาลปัจจุบันที่ประกาศก็คงหาทางรอดเอาไว้บ้างแล้ว ดังนั้นคนที่จะลำบากก็คงไม่พ้นประชาชนตาดำๆ เช่นเดิม

ดังนั้นถ้ามาตรการนี้จะส่งผลให้ขจัดเงินสกปรก และนำคนที่ไม่ยอมเสียภาษีให้มาเข้าระบบอีกครั้ง ก็คงต้องเข้มงวดกันจริงจัง ไม่ใช่ Double Standard หรือทำการสองมาตรฐาน เพราะจะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม ซึ่งสุดท้ายการแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ก็ไม่สำเร็จไปทั้งหมด ส่วนทางออกอื่นที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องคอรัปชั่นคงไม่พ้นเรื่องการปลูกฝังความสื่อสัตย์ แต่ไม่ใช่แค่ โตไปไม่โกง ต้องปฏิบัติจริงด้วย

สรุป

การหักดิบของประเทศอินเดียครั้งนี้คงช่วยได้แค่จำนวนหนึ่ง และธนบัตรมูลค่า 500 กับ 1,000 รูปีฉบับเก่าก็คงหายไปจากประเทศภายในเวลาที่กำหนดแน่นอน ส่วนจะแก้ปัญหาเรื่องคอรัปชั่นได้หรือไม่คงต้องดูกันยาวๆ ส่วนถ้าเอามาช่วยแก้ปัญหาคอรัปชั่นในไทย เชื่อว่าไม่หายแน่นอน เพราะคงต้องปลูกฝังความคิดใหม่กันยาวๆ

อ้างอิง

India to Replace Largest Bank Notes

Shock as India scraps 500 and 1,000 rupee bank notes

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา