คัาปลีกชั้นนำในสหรัฐอเมริกา เช่น Wallmart, Costco และอื่น ๆ อยู่ระหว่างพิจารณายกเลิกการใช้งาน Self Checkout หรือระบบที่ให้ลูกชำระเงินด้วยตัวเอง เนื่องจากระบบดังกล่าวมักเพิ่มความลำบากในการใช้งานให้ลูกค้า และเกิดความผิดพลาดจนค้าปลีกต่าง ๆ สูญเสียรายได้จากปัญหาดังกล่าว
จุดจบของ Self Checkout ในสหรัฐอเมริกา
สำนักข่าว CNN รายงานว่า ค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาหลายแห่งทยอยยกเลิก Self Checkout หรือระบบชำระเงินด้วยตัวเอง ไล่ตั้งแต่ Walmart ที่ยกเลิกระบบดังกล่าวในรัฐ New Mexico ตั้งแต่ต้นปี 2023, Costco ต้องเพิ่มจำนวนพนักงานที่คุมช่องทาง Self Checkout และ ShopRite นำระบบนี้ออกจากสาขาในรัฐ Delaware เช่นกัน
เหตุผลที่ค้าปลีกต่าง ๆ ปิด หรือปรับปรุง Self Checkout เนื่องจากถูกลูกค้าติติงว่าสร้างความลำบากในการใช้งาน เช่น ไม่สามารถสแกนสินค้าได้ถูกต้อง หรือการสแกนสินค้าเพื่อคิดเงินทำได้ช้า และไม่มีความแน่นอน ผ่านการที่บางสินค้ามีบาร์โค้ดหลายชุด จึงสร้างความสับสน
ในทางกลับกัน Self Checkout ยังสร้างปัญหาขาดทุนให้กับค้าปลีกต่าง ๆ ผ่านการที่ลูกค้าพยายามลักลอบไม่สแกนบาร์โค้ด, จงใจสแกนบาร์โค้ดผิดสินค้า หรือสแกนสินค้าผิดแบบไม่ตั้งใจ ทำให้แทนที่ค้าปลีกจะคิดเงินได้อย่างถูกต้อง กลับต้องสูญเสียรายได้ในบางครั้ง เช่น สแกนสินค้าเป็นกล้วย แต่กลับหยิบสเต๊กเนื้อออกไป เป็นต้น
Self Checkout ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีมาตั้งแต่ทศวรรษ 80s
อย่างไรก็ตาม Self Checkout นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของอุตสาหกรรมค้าปลีก เพราะเริ่มใช้งานมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 80s เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน หลังจากนั้นมาประยุกต์ใช้ทศวรรษ 2000s ผ่านการที่ค้าปลีกต่าง ๆ ต้องการควบคุมต้นทุน และทศวรรษ 2020s ที่ถูกใช้เพื่อลดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า กับพนักงาน
แต่ปัจจุบันปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทุเลา และค้าปลีกต่าง ๆ เริ่มคิดว่า ปัญหาจากการใช้งาน Self Checkout เริ่มมีมากกว่าประโยชน์ของระบบดังกล่าว จึงมีการลดความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ และหันไปใช้งานระบบพนักงานคิดเงินเช่นเดิม
Nigel Murray กรรมการผู้จัดการของ Booths ค้าปลีกจากสหราชอาณาจักรที่ทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา แจ้งว่า บริษัทจะนำระบบ Self Checkout ออกทั้งหมด โดยเหลือไว้แค่ 2 สาขา จากทั้งหมด 28 สาขา เพราะลูกค้าติติงเรื่องความช้า เช่น จะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องเสียเวลาตรวจอายุ และไม่น่าเชื่อถือ รวมถึงดูไม่มีความเป็นมนุษย์
Self Checkout สร้าง Loss Rate ให้ค้าปลีก
มีการสำรวจพบว่า ค้าปลีกที่ติดตั้งระบบ Self Checkout รวมถึงการซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน จะสร้าง Loss Rate หรือการสูญเสียรายได้ที่ควรจะเป็นให้กับธุรกิจราว 4% หรือมากกว่าค่าเฉลี่ยของค้าปลีกทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ระบบดังกล่าวถึงเท่าตัว แสดงให้เห็นถึงปัญหาของ Self Checkout อย่างชัดเจน
- Social Distancing ระยะ “ห่าง” ระหว่างลูกค้า การปรับตัวของธุรกิจ Retail ยุค COVID-19
- คาดการณ์วงการค้าปลีกมีการลงทุนด้าน AI ถึง 12,000 ล้านเหรียญ ภายในปี 2023
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันค้าปลีกต่าง ๆ ในประเทศไทยเริ่มมีการติดตั้งระบบ Self Checkout มากขึ้น โดยชูเรื่องความสะดวกในการใช้งานผ่านการไม่ต้องต่อคิว และตอบโจทย์ลูกค้าที่ซื้อสินค้าในจำนวนไม่มาก รวมถึงประหยัดพื้นที่กว่าเมื่อเทียบการตั้งจุดชำระเงินแบบปกติ
การป้องกันปัญหาการไม่ชำระเงิน หรือสแกนสินค้าผิดของ Self Checkout ในประเทศไทย เบื้องต้นจะมีพนักงาน 1-2 คน คอยตรวจสอบการใช้งาน และมีระบบชั่งน้ำหนักระหว่างสินค้าในตะกร้า กับสินค้าที่ชำระเงินแล้ว เพื่อวัดว่าจำนวนสินค้าที่หยิบมา และชำระเงินนั้นเท่ากันหรือไม่
อ้างอิง // CNN, ภาพจาก Walmart
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา