อยากเก่งแบบ Elon Musk ต้องรู้จักเทคนิคการเรียนรู้แบบต้นไม้ เริ่มจากลำต้นที่เป็นความรู้พื้นฐานก่อน แล้วค่อยแตกใบอ่อน เสริมความรู้อื่นๆ เพิ่มเติม
Elon Musk เจ้าของบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง Tesla และ SpaceX ผู้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ตามการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1.51 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.7 ล้านล้านบาท
แน่นอนว่ามหาเศรษฐีโปรไฟล์ดีแบบ Elon Musk ถ้าไม่ใช่คนที่เก่ง มีความรู้อยู่ในหัว และรู้จักใช้ความรู้ที่ตัวเองมีเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ของคนทั่วไป เขาคงไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ต้นๆ ของโลก แข่งกับ Jeff Bezos แห่ง Amazon ได้อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ Brand Inside เคยเขียนบทความเปิดชีวิตในวัยเด็กของ Elon Musk ไปแล้ว ว่ามีเกมเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ที่ทำให้ Elon Musk สนใจการเขียนโปรแกรม จนกลายเป็นความถนัดที่ใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นมหาเศรษฐีในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม แค่การเล่นเกมเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถทำให้ Elon Musk ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ เพราะเกมเป็นเพียงสิ่งที่จุดประกายความอยากรู้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของ Elon Musk คือ วิธีที่เขาใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เขาทำอย่างไรให้เข้าใจในเรื่องที่เรียน ทำอย่างไรจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งทางด้านรถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ไปพร้อมๆ กัน
โดยพื้นฐานของ Elon Musk ชอบเป็นคนอ่านหนังสือ และหนังสือนี้เองที่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในหลายๆ เรื่อง แต่การอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถทำให้ Elon Musk กลายเป็นคนเก่งได้ หากขาดวิธีในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ
ที่ผ่านมา Elon Musk เคยเปิดเผยวิธีที่เขาใช้ในการเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่การจำได้ แต่เป็นการเข้าใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแท้จริง โดยมีเทคนิคสำคัญ 2 ข้อ ดังนี้
การเรียนก็เหมือนการปลูกต้นไม้ ต้องเริ่มจากราก และลำต้นที่มั่นคง
Elon Musk เชื่อว่า “ใครๆ ก็สามารถเรียนรู้ได้มากกว่าที่ตัวเองคิด” และต้องรู้จักมองความรู้ต่างๆ ให้เป็นต้นไม้ ต้องเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานของสิ่งต่างๆ ที่เป็นเหมือนลำต้น และกิ่งไม้ขนาดใหญ่ ก่อนที่จะทำความเข้าใจถึงใบเล็กๆ ซึ่งเป็นเหมือนส่วนของรายละเอียด
หากต้นไม้ไม่มีลำต้น และกิ่งใหญ่ๆ ที่มั่นคง ใบเล็กๆ ที่แตกยอดออกมาคงไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ความรู้ในเรื่องต่างๆ ก็เช่นกัน ถ้าไม่มีพื้นฐานที่ดีพอ การจะเรียนรู้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเติม ก็คงไม่สามารถทำได้ดี
สิ่งที่ Elon Musk ต้องการจะสื่อก็คือ ความรู้แต่ละอย่าง ไม่ได้สำคัญเท่ากันทั้งหมด บางอย่างมีความสำคัญในฐานะความรู้ที่จะใช้ต่อยอดไปได้ ในขณะที่บางอย่างเป็นความรู้ที่อาจไม่ได้สำคัญ รู้ไปก็ใช้ต่อยอดลำบาก
ในขณะที่ Elon Musk เน้นย้ำว่า เราควรเรียนรู้ความรู้พื้นฐานที่เปรียบเป็นลำต้นของต้นไม้ให้แข็งแรงเสียก่อน แล้วค่อยไปเรียนรู้รายละเอียดเล็กๆ ที่เป็นเหมือนใบไม้อ่อนๆ แต่คนทั่วไปกลับทำพลาด ไปเลือกเรียนรู้สิ่งที่เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก่อน จึงกลายเป็นว่าไม่รู้วิธีที่จะเชื่อมโยงความรู้เล็กๆ น้อยๆ เข้ากับความรู้ที่เป็นพื้นฐานอย่างไร
แค่เรียนอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักเชื่อมโยงความรู้ให้เป็นด้วย
เมื่อเข้าใจวิธีที่ Elon Musk ใช้ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ว่าต้องรู้ตั้งแต่พื้นฐานที่สำคัญก่อน แล้วค่อยเรียนรู้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สิ่งต่อไปที่ Elon Musk แนะนำคือ ต้องรู้จักเชื่อมโยงความรู้ให้เป็น “ถ้าเชื่อมโยงความรู้ไม่เป็น ทำยังไงก็จำไม่ได้”
Elon Musk ใช้วิธีการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ที่เขาได้เรียนรู้มาเข้าด้วยกัน หลังจากมีราก และลำต้นของความรู้ที่มั่นคงแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเรียนรู้เรื่องอื่นๆ เพิ่ม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่การเรียนรู้เพิ่ม แต่ต้องรู้จักเชื่อมโยงความรู้เข้าด้วยกันด้วย ไม่ใช่ว่าจะเรียนรู้เรื่องอะไรไปเรื่อย แต่ทุกๆ อย่างที่เรียนรู้ต้องช่วยเสริมให้ลำต้นของต้นไม้แข็งแรงขึ้น
ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าการเรียนรู้อะไรไปเรื่อย ไม่ดีอย่างไร ก็ยกตัวอย่างงได้ง่ายๆ กับคนสวนที่มัวแต่เก็บกิ่งไม้เล็กๆ จนกระทั่งในมือเต็มไปด้วยกิ่งไม้ จนสุดท้ายก็ต้องจัดการกับกิ่งไม้ที่ไร้ประโยชน์ด้วยการเผาทิ้ง
ในขณะที่ Elon Musk ไม่ได้สนใจกิ่งไม้เล็กๆ นั้นเลย แต่เขาเลือกที่จะสนใจกับการปลูกต้นไม้ความรู้ให้มั่นคง ในดินที่ดี เมื่อต้นไม้เติบโต ก็หาทางต่อยอดต่อไปเรื่อยๆ จากต้นไม้ต้นเดิม
ที่มา – Entrepreneurshandbook, inc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา