เมื่อพูดถึงคำว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla น่าจะเป็นแบรนด์แรกๆ ที่หลายคนนึกถึง ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึง Tesla เป็นผู้ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นสิ่งที่มีราคาจับต้องได้ในมุมมองของคนทั่วไป
ในปัจจุบัน Tesla นับว่าเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ที่มีมูลค่า 2.08 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.45 ล้านล้านบาท แซงหน้า Toyota ที่มีมูลค่า 2.03 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.3 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตามแม้ว่า Tesla จะกลายเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Tesla จะประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เพราะที่ผ่านมา Tesla ต้องประสบกับปัญหาทางการเงินหลายครั้ง แต่ Elon Musk ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งของ Tesla ก็ไม่เคยเปิดเผยว่าสถานการณ์ทางการเงินของ Tesla ที่ผ่านมา แย่ขนาดไหน
Closest we got was about a month. The Model 3 ramp was extreme stress & pain for a long time — from mid 2017 to mid 2019. Production & logistics hell.
— Elon Musk (@elonmusk) November 3, 2020
ล่าสุด Elon Musk ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของ Tesla ในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาเอง ว่า Tesla ต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เกือบจะล้มละลายภายในเวลาไม่กี่เดือน ในช่วงเวลาตั้งแต่กลางปี 2017 ถึงกลางปี 2018 ซึ่งในช่วงนั้น Tesla กำลังเร่งกำลังการผลิตรถยนต์ Tesla Model 3 โดย Tesla ต้องเผชิญกับปัญหาทั้งกระบวนการผลิต และการขนส่งอย่างหนัก จน Elon Musk บอกว่าเป็นช่วงเวลา “นรก” เลยทีเดียว
That funding round completed 6pm on Christmas Eve in 2008. Last hour of last day possible, as investors were leaving town that night & we were 3 days away from bankruptcy. I put in all money I had, didn’t own a house & had to borrow money from friends to pay rent. Difficult time.
— Elon Musk (@elonmusk) November 3, 2020
แม้ว่าปัจจุบัน Elon Musk จะสามารถพา Tesla ผ่านวิกฤตสถานการณ์ทางการเงินไปได้แล้ว แต่เมื่อย้อนกลับไปในปี 2008 Tesla ต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเงินที่เลวร้ายยิ่งกว่าสถานการณ์ในช่วงปี 2017-2018 เพราะในขณะนั้น Tesla เหลือเงินเพียงน้อยนิด เกือบจะล้มละลายภายในระยะเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น
Elon Musk ต้องนำเงินของตัวเองที่มีทั้งหมดมาใช้กับบริษัท ถึงขนาดต้องยืมเงินเพื่อนมาจ่ายค่าเช่าบ้าน เพราะเขาไม่ได้มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่นับว่ายังโชคดีที่หลังจากนั้น Tesla ได้รับเงินกู้จำนวน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,241 ล้านบาท มาต่อลมหายใจในช่วงวันคริสมาสต์ปี 2008 ก่อนที่นักลงทุนจะเดินทางออกจากเมือง
ปัจจุบัน Tesla ได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้แล้ว และ Elon Musk เอง ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก ตามการจัดอันดับของ Bloomberg ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.25 ล้านล้านบาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา