ด้วยลักษณะทางกายภาพของผู้สูงอายุหลายคนอาจจะมองว่าเป็นวัยที่เข้าวัดทำบุญอย่างเดียว แต่กลายเป็นว่าผู้สูงอายุยุคนี้มีไลฟ์สไตล์ไม่แตกต่างจากวัยรุ่นหนุ่มสาว แบ่งได้ถึง 5 กลุ่ม สาวชิลล์มาอันดับหนึ่ง
จากงานวิจัยในหัวข้อ “AWUSO Society 4.0 แก่แต่วัย หัวใจยังเก๋า” โดยนักศึกษาปริญญาโทสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้สูงอายุในยุค 4.0 เมื่อทำการเจาะลึกถึงการใช้ชีวิตเพิ่มเติมก็พบว่าผู้สูงอายุมีไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ไลฟ์สไตล์ที่ว่าไม่ได้แตกต่างจากคนหนุ่มสาวแต่อย่างใด ไม่ได้เข้าวัดทำบุญอย่างเดียว แต่มีไลฟ์สไตล์ถึง 5 สาย ได้แก่ สายชิลล์ สายบุญ สายลุย สายสังสรรค์ และสายเปย์
นักการตลาดสามารถเรียนรู้พฤติกรรมต่างๆ ของผู้สูงอายุเหล่านี้ เพื่อต่อยอดในการวางกลยุทธ์ในการสื่อสารทางการตลาด หรือการทำกิจกรรมเพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น เพราะยุคนี้พฤติกรรมไม่สามารถอ้างอิงได้กับคนทั้งกลุ่ม จำเป็นต้องเจาะตามเซ็กเมนต์
-
วัยเก๋าสายชิลล์
มีสัดส่วนมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคิดเป็น 42% วัยเก๋าสายนี้มีไลฟ์สไตล์ที่ ชอบการพักผ่อนแบบจริงจัง เน้นความสบายๆ ชิลล์ๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ทะเล ภูเขา เป็นต้น เพราะจะทำให้ตัวเองได้รู้สึกผ่อนคลาย ปลดปล่อย ไม่เน้นการทำกิจกรรมอะไรหนักๆ
ในส่วนร้านอาหารที่สายชิลล์นิยมไปเป็นร้านบรรยากาศไม่เป็นทางการมากนัก ส่วนใหญ่เป็นร้านประจำที่คุ้นเคย นั่งได้แบบไม่ต้องรีบเร่ง ราคาจะอยู่ระดับปานกลาง เช่น ร้านอาหารที่มีสาขาตามห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
-
วัยเก๋าสายบุญ
มีสัดส่วนเป็นอันดับสองของกลุ่มคิดเป็น 18% วัยเก๋าสายนี้มีไลฟ์สไตล์ ชอบมองหาสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เพื่อให้ตัวเองได้ปราศจากความทุกข์ในเรื่องต่างๆ สายนี้จะเชื่อในเรื่องการทำความดี ละเว้นความชั่ว เพราะชอบการเข้าวัด ไหว้พระ ทำบุญ เชื่อในการทำบุญ คือ การต่อชีวิตตัวเองในชาตินี้ และชาติหน้าก็จะเกิดมามีชีวิตที่ดีกว่านี้
ร้านอาหารโปรดสำหรับคนกลุ่มนี้ จะเน้นเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ย่อยง่าย เช่น ผัก ผลไม้ หรือเนื้อปลา บางท่านพิถีพิถันเรื่องที่มาที่ไปของวัตุดิบก่อนนำมาทำอาหาร และอีกหลายท่านหลีกเลี่ยงการรับประทานสัตว์ใหญ่ เพราะเชื่อว่าเป็นแหล่งสะสมของสารพิษอีกด้วย
-
วัยเก๋าสายลุย
มีสัดส่วนเป็นอันดับสามคิดเป็น 16% วัยเก๋าสายนี้มีไลฟ์สไตล์แตกกต่างจากวัยเก๋าสายชิลล์อย่างชัดเจน เพราะพวกเขาชอบทำอะไรรวดเร็ว ชอบไปท่องเที่ยวที่ต้องมีกิจกรรมให้ทำอยู่เสมอ และกิจกรรมที่ได้ทำต้องใช้การเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอด เช่น เดินป่า ปีนเขา และขับรถ ATV เป็นต้น เพื่อให้ตัวเองได้รู้สึกถึงความสนุกสนาน ผ่อนคลาย ตื่นเต้น ผจญภัย และได้ประสบการณ์ในชีวิตใหม่ๆ ที่ได้ในช่วงปั่นปลายชีวิต วัยเก๋าสายนี้ จะไม่กังวลเรื่องความสะดวกสบายมากนัก ค่ำไหนนอนนั้น แต่เน้นเรื่องความปลอดภัยสำคัญที่สุด
วัยเก๋ากลุ่มนี้ชอบการทดลอง หรือค้นหาร้านอาหารใหม่ๆ ตามคำแนะนำของคนใกล้ชิด ลักษณะร้านที่ชื่นชอบส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารเด็ดข้างทาง แต่มีรสชาติอร่อยขั้นเทพ ซื้อง่าย รับประทานง่าย จ่ายง่าย ไม่จำเป็นต้องมีที่จอดรถใกล้ร้านหรือการเดินทางที่สะดวกมากนัก เพราะพวกเขาเต็มใจที่จะลุยไปตามหาสิ่งที่ชื่นชอบ แม้อาจต้องเข้าซอยลึก หรือต่อคิวยาวหลายชั่วโมงก็ตาม
-
วัยเก๋าสายสังสรรค์
มีสัดส่วนเป็นอันดับสี่ของกลุ่มคิดเป็น 14 % วัยเก๋าสายนี้มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ปิดการเข้าสังคมใหม่ๆ เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เข้ากับคนอื่นๆได้ง่าย บางครั้งรู้สึกเหงา จึงต้องออกไปทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนๆ เช่น เต้น ร้องคาราโอเกะ และ ออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งสายนี้จะมีการเปิดรับข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอผ่านสื่อ Social Media เป็นคนที่ทันโลก ทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา
ร้านอาหารที่วัยเก๋าสายสังสรรค์นิยมไป จะเป็นร้านแนว Café & Bistro เน้นการสร้างความบันเทิงทั้งกายและใจ มีดนตรี สามารถร้องคาราโอเกะ หรือเต้นลีลาศไปตามจังหวะได้
-
วัยเก่าสายเปย์
มีสัดส่วนเป็นอันดับห้า หรือมีจำนวนน้อยที่สุดคิดเป็น 10 % วัยเก๋าสายนี้มีไลฟ์สไตล์ที่ ยอมจ่าย เพื่อแลกกับความสะดวกสบายให้กับชีวิต ของต้องครบ งบไม่อั้น ใส่ใจรายละเอียดของข้อมูล ข้อมูลที่ได้รับต้องมีความน่าเชื่อถือ จึงจะเลือกซื้อสินค้าและบริการนั้นๆ เน้นการท่องเที่ยวที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ไปเที่ยวเกาะพีพี จ. ภูเก็ต และชอบทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนที่ต้องใช้เวลานาน ๆ เช่น ดำน้ำ ตีกอล์ฟ เป็นต้น ชื่นชอบการเดินห้างสรรพสินค้าอีกด้วย
ในส่วนร้านอาหารที่เข้ากลุ่มวัยเก๋าสายนี้ จะเป็นร้านแบบ Fine Dinning ที่มีบริการแบบเต็มรูปแบบ บรรยากาศร้านหรูหรา และหน้าตาอาหารจะตกแต่งอย่างสวยงาม ที่นั่งจะสบาย ไม่ต้องรีบเร่ง เช่นภัตตาคาร 5 ดาว หรือร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ตามโรงแรม เป็นต้น
สื่อสารด้วยกลยุทธ์ AWUSO
A – Attraction
สื่อต่างๆ ต้องเน้นที่ภาพ ตัวหนังสือใหญ่ชัดเจน เนื้อหาน้อย แต่ต้องครอบคลุมคุณสมบัติชัดเจน จะทำให้ช่วยตัดสินใจ ณ จุดขายได้ง่ายขึ้น
W – Word of Mouth
ผู้สูงอายุจะเน้นการหาข้อมูลจากคนใกล้ตัวอย่างเพื่อน ลูกหลาน ญาติพี่น้อง จะมีอิทธิพลต่อเขามาก นักการตลาดต้องสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ด้วยเพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อ
U – Union
เพราะคนวัยเก๋าชอบทำอะไรเป็นกลุ่ม การสื่อสารสินค้า และบริการต้องทำในรูปแบบเป็นกลุ่ม หรือทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม
S – Sincere
ต้องเน้นความจริงใจ สื่อสารตรงประเด็น ไม่หมกเม็ด จะช่วยสร้างแบรนด์ ลอยัลตี้ได้ดี
O – Offline & Online
ชื่อทางในการสื่อสาร คนกลุ่มนี้ยังใช้สื่อออฟไลน์เป็นหลักอย่างทีวี และวิทยุ แต่ไม่เยอะเหมาะในอดีต อาจจะเลือกช่วงเวลาในการสื่อสารเช่นละครตอนเย็น ส่วนช่องทางออนไลน์ก็มีเพิ่มมากขึ้น เน้นการสร้างคอมมูนิตี้ให้คนกลุ่มเดียวกันคุยกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา