ในขณะที่ร้านค้าปลีกแบบเทรดิชั่นนอลกำลังดิ้นรนกับการล้มหายตายจากกันเพราะถูกดิจิทัลเข้ามามีบทบาท แต่ร้านค้าอีคอมเมิร์ซกลับแตกสาขามาเปิดหน้าร้าน ชี้ให้เห็นว่า ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญมากในวงการรีเทล
2 แบรนด์อีคอมเมิร์ซที่กำลังเปิดหน้าร้านใหม่ในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Everlane แบรนด์เสื้อผ้า และ Casper แบรนด์เครื่องนอน ทั้ง 2 แบรนด์ได้เปิดร้าน brick-and-mortar โดยที่ Casper เปิดสาขาแรกที่นิวยอร์ก ส่วย Everlane เปิดสาขาที่สองที่ซานฟรานซิสโก และทั้ง 2 แบรนด์ก็ได้ร่วมกับแบรนด์อีคอมเมิร์ซอื่นๆ อย่าง Amazon และ Outdoor Voices ในการเปิดหน้าร้าน และร้านแบบป็อปอัพสโตร์
Casper Sleep Shop ได้เปิดร้านแรกที่ย่าน NoHo ในนิวยอร์ก ลูกค้าสามารถดูสินค้าต่างๆ เช่น ที่นอน เตียง และอื่นๆ ซึ่งร้านมีบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าถึงบ้านด้วย
Everlane ได้เปิดร้านสาขาที่ 2 เป็นการกลับบ้านเกิดที่ซานฟรานซิสโกในย่าน Mission District เปิดในวันที่ 3 มีนาคม 2018 หลังจากเปิดสาขาแรกในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในนิวยอร์ก ร้านนี้จะมีการออกแบบให้โปร่งโล่งสบายมากขึ้น
อาจจะดูแล้วเหมือนว่าแค่เปิดสาขาธรรมดา แต่เป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซเห็นพลังของหน้าร้าน ถึงแม้แบรนด์จะมีการเติบโตขนาดไหน แต่ประสบการณ์บนโลกออฟไลน์ยังเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมการขาย รวมถึงการจัดโปรโมชั่น การจัดอีเวนต์ต่างๆ ด้วย
สำหรับ Michael Preysman, CEO ของ Everlane ได้มองว่ายังเห็นร้านค้าออฟไลน์เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างประกบการณ์ขนาดใหญ่ของผู้บริโภคในยุคนี้อยู่ จึงจำเป็นต้องเปิดหน้าร้าน
การที่แบรนด์ที่สาขากว่า 500 สาขา หรือสาขาที่มากๆ นั้น มันจะไม่มีความหมายเลยถ้าไม่สามารถสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคได้เลย แต่ถ้ามีเพียงแค่ 20 หรือ 50 แห่ง แต่ช่วยทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้า มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น ทำให้ร้านเป็นส่วนหนึ่งของเขาให้ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา