นักวิจัยค้นพบ e-skin (ผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์) ทำหุ่นยนต์มีประสาทสัมผัสใกล้เคียงมนุษย์

นี่อาจไม่ใช่ข่าวธุรกิจตรงๆ แต่เป็นเรื่องราวที่ควรรู้ เพราะธุรกิจในโลกยุคใหม่ มีไอทีเป็นพื้นฐานแทบทั้งนั้น ล่าสุด นักวิจัยพัฒนา e-skin ที่สามารถฟื้นฟูตัวเอง และนำกลับมาใช้ใหม่ได้แล้ว

Photo: Shutterstock

e-skin ทำหุ่นยนต์เข้าใกล้มนุษย์อีกขั้น

อันที่จริงแล้ว การพัฒนา e-skin หรือผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์ มีมาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว เพียงแต่ว่าล่าสุด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Colorado Boulder ได้พัฒนา e-skin ที่สามารถฟื้นฟูตัวเอง และนำกลับมาใช้ใหม่ (fully rehealable and recyclable) ได้เป็นครั้งแรก ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการนำกลับมาใช้ซ้ำได้ จะช่วยลดต้นทุนครั้งใหญ่ และจะทำให้เกิดการนำไปใช้ในวงกว้าง

e-skin จากผลงานวิจัยชิ้นนี้เลียนแบบการทำงานและคุณสมบัติมาจากผิวหนังของมนุษย์ ทำให้สามารถรับรู้ได้ถึงแรงดัน แรงสั่นสะเทือน และอุณหภูมิ

Jianliang Xiao หัวหน้าของนักวิจัยกลุ่มนี้ เซ็นเซอร์ที่ติดมากับ e-skin สำคัญมาก เพราะจะนำไปสู่การมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์และหุ่นยนต์ที่ปลอดภัยมากขึ้น เราต้องการทำให้มั่นใจได้ว่า หุ่นยนต์จะไม่ทำร้ายมนุษย์

  • สมมติว่าลูกของคุณกำลังป่วย แล้วคุณมีหุ่นยนต์ที่ติด e-skin อยู่ในบ้าน หุ่นยนต์เพียงใช้นิ้วไปสัมผัสร่างกาย ก็สามารถบอกได้ว่า ตอนนี้อุณหภูมิร่างกายของลูกคุณอยู่ที่เท่าไหร่
  • การเลี้ยงดูเด็กหรือผู้สูงอายุ อาจต้องพึ่งพาเทคโนโลยีลักษณะนี้มากขึ้น
  • ในอนาคต เราอาจได้เห็นโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีชนิดนี้ไปร่วมด้วยก็เป็นได้

นอกจากนั้นยังสามารถนำมาใช้กับมนุษย์ได้ด้วย นักวิจัยกลุ่มนี้ระบุว่า e-skin ชิ้นนี้ทำมาจากโพลิเมอร์ (polymer) และ อนุภาคนาโนเงิน (silver nanoparticles) ทำให้ใช้กับมนุษย์ได้เช่นกัน เพราะสามารถสวมใส่เข้ากับแขนเทียมหรือขาเทียมได้อย่างง่ายดาย

ส่วนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ที่บอกว่า e-skin ชิ้นนี้สามารถฟื้นฟูและใช้ซ้ำได้ หมายความว่า หาก e-skin ได้รับความเสียหาย จะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ เข้าใจว่าคล้ายกับตอนเวลาเราล้ม แล้วเป็นแผล แต่หาก e-skin ได้รับความเสียหายจนเกินกว่าจะฟื้นฟูได้ ก็สามารถนำเอา e-skin นั้นมาถอดแยกส่วนประกอบ แล้วนำมารีไซเคิล กลับไปใช้ใหม่ได้อีกครั้ง

รูปภาพ e-skin จากงานวิจัย

ที่มา – QUARTZ

อ่านวิจัยกันเต็มๆ ได้ที่ – Science Advances

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา