อยู่คุกก็ต้องใช้เงิน “กรุงไทย” จัดระบบรับฝากเงินผ่านแบงก์ เล็งออกบัตรให้นักโทษรูดใช้

การใช้ชีวิตหลังลูกกรงขัง แน่นอนว่าขาดอิสระในชีวิต แต่ก็หนีไม่พ้นทุนนิยม เพราะยังต้องใช้เงินซื้อของ เครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะ สบู่ แชมพู ยาสีฟัน ฯลฯ เราเลยได้ยินกันบ่อยๆ ว่าญาติต้องหิ้วของกิน เงินสด ไปฝากนักโทษที่เรือนจำด้วยตัวเอง

ล่าสุดแบงก์ของภาครัฐอย่าง กรุงไทย เลยร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ปรับระบบรับฝากเงินให้เข้ากับยุค Thailand 4.0

ฝากเงินที่กรุงไทยเข้าบัญชีนักโทษตรงๆ ไม่ต้องกลัวใครหักหัวคิว

พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า เราร่วมกับธนาคารกรุงไทยปรับระบบเงินฝากสำหรับผู้ต้องขัง จากเดิมที่ญาติต้องนำเงินสดมาที่เรือนจำที่นักโทษอยู่ ทำเรื่องฝากเข้าบัญชีของนักโทษคนนั้น ซึ่งทางเรือนจำจะให้ฝากได้เดือนละไม่เกิน 9,000 บาท และให้นักโทษใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 300 บาท

แต่ระบบเงินฝากแบบใหม่คือ ธนาคารกรุงไทยจะเข้ามาเปิดบัญชีเงินฝาก และออกบัตรกดเงิน (ใช้จ่ายค่าสิ่งของต่างๆ ได้)ให้นักโทษ โดยญาติไม่ต้องเดินทางมาที่เรือนจำที่นักโทษถูกคุมขังอยู่ เพราะจะสามารถฝากเงินผ่านธนาคารกรุงไทยได้เลยไม่ว่าจะเป็นสาขาธนาคาร หรือ E-Banking ซึ่งเรื่องนี้จะปิดช่องว่างไม่ให้เกิดข้อครหาว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำหักหัวคิว หรือคิดค่าฝากเงินให้กับนักโทษด้วย

“ความร่วมมือระหว่างกรมราชทัณฑ์กับธนาคารกรุงไทย เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล “ประเทศไทย 4.0” ซึ่งจะใช้นวัตกรรมในการดำเนินงานและการบริการประชาชนให้สะดวกมากยิ่งขึ้น”

การใช้ระบบเงินฝากใหม่นี้จะเพิ่มประสิทธิภาพ เพราะลดขั้นตอน ประหยัดเวลา ทั้งฝั่งประชาชน และการใช้ผู้คุมในหน้าที่ฝากเงิน และเก็บรักษาเงินให้กับนักโทษ ปัจจุบันทดลองใช้แล้วที่เรือนจำทัณฑสถาน 3 แห่ง คือ เรือนจำกลางคลองเปรม เรือนจำกลางเพชรบุรี และทัณฑสถานหญิงธนบุรี ถ้าทดลองเรียบร้อยแล้วจะขยายให้บริการเงินฝากผ่านทางธนาคารกับเรือนจำทัณฑสถานทั่วประเทศและให้บริการนักโทษกว่า 367,000 ราย

นอกจากเข้าถึงนักโทษ กรุงไทยเสริมระบบการเงินรูปแบบองค์กรให้ราชทัณฑ์

ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย บอกว่า นอกจากจะเพิ่มช่องทางให้ญาติของผู้ต้องขังสามารถฝากเงินผ่านสาขาของธนาคาร ตู้ ATM และ KTB netbank จากเดิมที่ญาติต้องมาที่เรือนจำและฝากเงินเป็นธนาณัติหรือเงินสด

กรุงไทยยังให้บริการโอนเงินระหว่างหน่วยงานในสังกัดกรมราชทัณฑ์ผ่านระบบ Krungthai Corporate Online ได้แก่ เงินฝากผู้ต้องขังที่ย้ายเรือนจำ เงินค่าขายสินค้าของร้านค้าสวัสดิการ รวมถึงการโอนเงินค่าสินค้าให้กับคู่ค้า โดยสามารถตรวจสอบการทำรายการและรับรายงานผ่านระบบ Krungthai Corporate Online ได้แบบ Real Time อีกด้วย

สรุป

Thailand 4.0 เรียกว่าเข้าถึงทุกหย่อมหญ้า ไม่เว้นแต่คุก ข้อดีคือทำให้ทุกคนสะดวกขึ้น ญาติไม่ต้องหิ้วเงินสดไปฝากที่เรือนจำทุกเดือน แถมธนาคารกรุงไทยยังมีฐานลูกค้าใหม่ที่เป็นทั้งภาคประชาชน และองค์กรอย่างกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องใช้บริการธุรกรรมทางการเงินอยู่แล้ว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา